จากการตรวจสอบข้อมูล ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พบว่า "นายสารัชถ์ รัตนาวะดี" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) "GULF" มีการถือครองหุ้นใน 2 บริษัทจดทะเบียน ประกอบไปด้วย
บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) "GULF"
มีทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 11,733.15 ล้านบาท สำหรับงบการเงิน ปี 65 มีรายได้ 10,376.26 ล้านบาท รายจ่าย 2,387.89 ล้านบาท และกำไร 4,668.11 ล้านบาท
โดยถือหุ้นในอันดับที่ 1 จำนวน 4,185.08 ล้านหุ้น (35.67%) คิดเป็นมูลค่า 197,745.41 ล้านบาท ณ ราคาปิด เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 66 ที่ราคา 47.25 บาท ปรับขึ้น 1.50 บาท (3.28%)
บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) "ITC"
มีทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 3,000 ล้านบาท สำหรับงบการเงิน ปี 64 มีรายได้ 6,855.83 ล้านบาท รายจ่าย 6,227.60 ล้านบาท และกำไร 2,994.61 ล้านบาท
โดยถือหุ้นในอันดับที่ 4 20.02 ล้านหุ้น (0.67%) คิดเป็นมูลค่า 434.58 ล้านบาท ณ ราคาปิด เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 66 ที่ราคา 21.70 บาท ปรับขึ้น 0.90 บาท (4.33%)
อย่างไรก็ตามหากประเมินราคาหุ้นของทั้ง 2 บริษัทรวมกันจะมีมูลค่ากว่า 198,180 ล้านบาทเลยทีเดียว เรียกได้ว่ารวยเฉียดหลัก 2 แสนล้านบาท
สำหรับในช่วงที่ผ่านมา "นายสารัชถ์ รัตนาวะดี" มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในหุ้นของบริษัท GLUF ที่มีการทยอยซื้อหุ้นเข้าเก็บสะสม โดยในช่วงหลังการเลือกตั้งเดือนพ.ค. 66 ที่ผ่านมา ก็มีการทยอยซื้อหุ้น GULF เพิ่มอีก 3 ครั้ง รวมกว่า 17,089,800 หุ้น หรือมูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท
รวมทั้งล่าสุด Gulf International Investment Limited (GIIL) ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ซึ่งเป็นผู้บริหาร กรรมการ และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ถือหุ้นทางอ้อมในสัดส่วน 100% ยังซื้อหุ้นบุริมสิทธิทั้งหมด ที่ถือใน BAM Management US Holdings Inc. (Binance US)
ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ในประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้ชื่อ Binance.US อีกด้วย
ถือได้ว่าไม่ธรรมดาสำหรับ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ดีกรีแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 1 ปี 2565 และหากย้อนไปดูในปีก่อนๆที่ผ่านมา ถือเป็นการครองแชมป์เศรษฐีหุ้นต่อเนื่องติดต่อกันเป็นปีที่ 4 เรียกได้ว่าป้องกันแชมป์มาอย่างเหนียวแน่นในตลอดช่วงระยะ 4 ปีที่ผ่านมา