บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ "กลยุทธ์การลงทุน : Market Strategy " ล่าสุด ( 27 มิ.ย.2566) ว่า ดัชนี SET ลดลง 1.34% เป็น 1,485 (26 มิ.ย.66) ลดลงต่ำกว่าเป้าหมายปลายปีที่ทิสโก้ คาดไว้ที่ 1,496 จุด
การลดลงสอดคล้องกับ non-consensus ที่คาดของเราว่า SET จะอยู่ใต้แรงกดดันในระยะเวลาอันใกล้จาก
เราปักธงในกลยุทธ์ตลาด Q3/ 2566 “ถนนที่ยาว และคดเคี้ยว (The Long and Winding Road)” ของเราว่า Q3 จะช่วงเวลาที่แย่ที่สุดของปีสำหรับตลาด คาด SET จะลดลงหลุดจาก 1,450 ก่อนฟื้นตัวใน Q4/2566 หลังจากความเสี่ยงดังกล่าวเริ่มทุเลา
อ่านเพิ่ม : การเมืองกดดัน"หุ้นไทย"ไซด์เวย์ดาวน์ จับตา ก.ค.
การพัฒนาล่าสุดช่วยยืนยันมุมมองของเรา แม้ว่าคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รับรองผลการเลือกตั้งเร็วกว่าที่คาด มีความเป็นไปได้สูงสำหรับสถานการณ์ที่พรรคก้าวไกลจะไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเพียงพอจากวุฒิสภาในการเลือกตั้งมากพอให้แต่งตั้งคุณพิธา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าในสถานการณ์นี้ วันที่ลงคะแนนเสียงนายกรัฐมนตรี (คาด 10-14 กรกฎาคม) จะทำให้เกิดแรงเทขายอีกครั้งโดยเฉพาะจากนักลงทุนต่างชาติ
กองทุนรวมสถาบันการเงินในประเทศยังคงรอดู
ล่าสุดเราได้ทำการสำรวจตลาดจากมากกว่า 17 กองทุนรวมในประเทศ และประเด็นสำคัญคือกองทุนรวมในประเทศมองตรงกับเราว่าตลาดอยู่ในช่วงขาลงเช่นเดียวกับเรา เมื่อเราเผยแนวโน้ม Q3/2566 เราคาดว่าจะมีการเห็นต่างอย่างมากจากกองทุนรวมในประเทศ เนื่องจาก SET พึ่งเด้งกลับมาจาก 1,490 เป็น 1,560 โดยขับเคลื่อนมาจากยอดซื้อสุทธิของกองทุนรวมในประเทศ ถึงอย่างนั้นยังไม่มีการเห็นต่างจากกองทุน แสดงให้เห็นมุมมองของเราว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจจะส่งผลกระทบต่อ SET ในระยะอันใกล้นี้ และเป็นข้อกังวลอย่างมากในระยะสั้น
ประเด็นสำคัญอื่นที่น่าสนใจจาก roadshow มีดังนี้ กองทุนบางแห่งมอง downside ที่จำกัดสำหรับราคาน้ำมันดิบ และแสดงความสนใจในการรวบรวมหุ้นกลุ่มพลังงานในระดับปัจจุบัน ด้านหุ้นกลุ่มธนาคาร ขณะนี้ดูเหมือนจะเป็นจุดปลอดภัย เนื่องจากความเสี่ยงด้าน upside ของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ถ้าหากความไม่แน่นอนทางการเมืองบานปลายสู่การประท้วง หุ้นที่เกี่ยวข้องอย่างกลุ่มการท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะหุ้นบางตัวที่มีมูลค่าสูง
ยืนยันมุมมองเดิมว่า Q3 จะเป็นไตรมาสที่แย่ที่สุดในปี
เรายังคงยืนยันมุมมองของเรา ถึงแม้ว่า SET จะลดลงติดต่อกันมา 6 วันทำการแล้ว เชื่อว่ามันอาจจะยังลดลงไปได้อีกในระยะอันใกล้ จึงแนะนำเพิ่มระดับเงินสด และรอดูสภาพการเมืองของไทย (และของตลาด) ใน Q3/2566 ก่อนหาจังหวะช้อนซื้อที่ดีกว่าใน Q4/2566 เมื่อถึงเวลานั้นความเสี่ยงของการเมืองจะลดลง และระดับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยจะชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ ช่วง high season ของนักท่องเที่ยวในประเทศไทยจะช่วยให้ภาพรวมเศรษฐกิจสดใสขึ้น ผลักดันเป้าหมายปลายปี SET ของเราที่ 1,496 จุด