ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้กล่าวโทษบุคคล รวม 10 ราย เป็นชุดแรก ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ให้ดำเนินคดีกรณีตกแต่งงบการเงิน เปิดเผยข้อความอันเป็นเท็จในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และกระทำโดยทุจริตหลอกลวง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวง อันเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งประกอบด้วย
(1) บริษัท STARK
(2) นายชนินทร์ เย็นสุดใจ
(3) นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ
(4) นายชินวัฒน์ อัศวโภคี
(5) นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ
(6) นายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม
(7) บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด (PDITL)
(8) บริษัท ไทย เคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (TCI)
(9) บริษัท อดิสรสงขลา จำกัด
(10) บริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (บ.เอเชีย)
ก.ล.ต. โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ก.ล.ต. อาศัยอำนาจตามความมาตรา 267 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ได้มีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำผิดชุดแรกรวม 10 รายดังกล่าว เป็นเวลา 180 วัน เนื่องจากปรากฏพฤติการณ์การกระทำผิดที่มีลักษณะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประโยชน์ของประชาชนในวงกว้าง
โดยปรากฏมูลค่าความเสียหายจากหนี้สินของบริษัท STARK ที่มีมากกว่า 38,000 ล้านบาท และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่า ผู้กระทำความผิดจะยักย้ายหรือจำหน่ายทรัพย์สินออกไป
นอกจากนี้ คณะกรรมการ ก.ล.ต. ยังมีคำสั่งห้ามบุคคลดังต่อไปนี้ออกนอกราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว
(1) นายชนินทร์ เย็นสุดใจ
(2) นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ
(3) นายชินวัฒน์ อัศวโภคี
(4) นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ
(5) นายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม
มิให้ออกนอกราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวมีกำหนด 15 วัน เนื่องจากมีเหตุฉุกเฉินอันควรสงสัยว่าบุคคลดังกล่าวจะหลบหนีออกนอกราชอาณาจักร
โดยหลังจากนี้ ก.ล.ต.จะไปร้องขอต่อศาลอาญาเพื่อออกคำสั่งห้ามมิให้บุคคลดังกล่าวออกนอกราชอาณาจักรต่อไป