นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน)หรือ NUSA เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจทั้ง 3 ด้านหลักตามที่ได้แจ้งแก่ผู้ถือหุ้นไว้ ปัจจุบันมีสถานะทางการเงินที่มั่นคง มีทรัพย์สินกว่า 15,589.75 ล้านบาท มีหนี้สินเพียง 6,302.30 ล้านบาท มูลค่าหุ้นทางบัญชี 0.78 บาท/หุ้น มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) เพียง 0.68 เท่า ล่าสุดออกหุ้นกู้จำนวน 900.0 ล้านบาท มีนักลงทุนให้ความสนใจจองเกินจำนวนอย่างล้นหลาม
นายวิษณุกล่าวเพิ่มเติมว่า ธุรกิจหลักของบริษัทฯ เป็นธุรกิจทางด้านอสังหาริมทรัพย์ มี Land bank รอการพัฒนาอยู่อีกจำนวนมาก ซึ่งบริษัทได้ซื้อเข้ามานานแล้ว และเนื่องจากเป็นบริษัทฯในหมวดอสังหาริมทรัพย์ ที่ดินในสต๊อคจำนวนมากของบริษัทจะถูกบันทึกในงบการเงินที่มูลค่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับมูลค่าปัจจุบัน
“เชื่อว่า บริษัทมีทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงกว่าในงบการเงินอีกหลายพันล้านบาท ซึ่งทางบริษัทกำลังให้ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเข้าประเมินมูลค่าทางบัญชีของบริษัท ซึ่งเชื่อว่า จะมีมูลค่าต่อหุ้นสูงกว่ามูลค่าปัจจุบันอย่างมาก”นายวิษณุกล่าว
ส่วนทางด้านการแพทย์นั้น ปัจจุบันมีโรงพยาบาลและคลินิกในประเทศไทยรวม 4 แห่ง ได้แก่ ที่พระรามสอง เอกมัย ในโครงการณุศามายโอโซนเขาใหญ่ และที่อุดรธานี ส่วนในต่างประเทศมีที่เยอรมันและโรงพยาบาลที่ประเทศจีน รวมมูลค่าการลงทุนกว่าหนึ่งพันล้านบาท ล่าสุดได้ลงทุนสร้างอาคารเพิ่มเติมบริเวณโรงพยาบาลพานาซี พระราม 2 อีกกว่า 200 ล้านบาท เพื่อเปิดศูนย์ศัลยกรรมครบวงจร โดยคาดว่า จะเปิดดำเนินการได้ภายในไตรมาสที่ 3 นี้ และจะเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของหน่วยธุรกิจทางการแพทย์ต่อไป
ทางด้านการลงทุนด้านพลังงานนั้นหลังจากที่ ณุศาศิริ เข้าซื้อหุ้น บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (WEH) จำนวน 7,748,294 หุ้น หรือ 7.12% ในปีนี้เราได้รับเงินปันผลแล้วกว่า 160 ล้านบาท อีกทั้ง WEH มีผลการดำเนินงานตามคาด ในปี 2565 ที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิเฉียด 6 พันล้านบาท เป็นไปตามประมาณการที่ NUSA ประเมินไว้
“ณุศาศิริมีความมั่นคงทางการเงินอย่างมาก มี Land Bank ที่มี Hidden Value ในงบการเงิน ทุกหมวดธุรกิจของบริษัทเริ่มสร้างรายได้ให้แก่บริษัทอย่างมั่นคง เราได้รับเงินปันผลจากธุรกิจพลังงานซึ่งเป็น Passive Income ให้กับบริษัท ซึ่งจะทำให้ณุศาศิริมีความมั่นคงทางธุรกิจและเติบโตขึ้นทุกๆ ปี”นายวิษณุกล่าว