ก.ล.ต. สั่งเพิกถอนผู้แนะนำการลงทุน “ธีระศักดิ์ ทิพย์บุญศรี” 10 ปี

03 ส.ค. 2566 | 10:03 น.
อัพเดตล่าสุด :03 ส.ค. 2566 | 10:04 น.

ก.ล.ต. สั่งเพิกถอนผู้แนะนำการลงทุน "ธีระศักดิ์ ทิพย์บุญศรี" เป็นเวลา 10 ปี กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ซื่อสัตย์สุจริต และมีพฤติกรรมอันส่อไปในทางไม่สุจริต หลังได้รับการรายงาน

(3 ส.ค. 66) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบผู้แนะนำการลงทุนราย "นายธีระศักดิ์ ทิพย์บุญศรี" เป็นเวลา 10 ปี กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ซื่อสัตย์สุจริต

ทำให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินของลูกค้าโดยมิชอบ จากการหลอกให้ลูกค้าโอนเงินค่าซื้อหน่วยลงทุน และเงินฝากเข้าบัญชีตนเอง ขณะกระทำผิดสังกัดธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)

สืบเนื่องจากทาง สำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับรายงานการตรวจสอบจากธนาคารเกียรตินาคินภัทรและตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างปี 2564 - 2565 นายธีระศักดิ์ ได้ให้ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของตนเองและ/หรือนำเงินสด

โดยแจ้งลูกค้าว่าจะนำเงินไปซื้อหน่วยลงทุนให้ลูกค้า แต่นายธีระศักดิ์ไม่ได้ทำตามความประสงค์ของลูกค้าและนำเงินไปใช้ส่วนตัว และได้จัดทำเอกสารตารางการลงทุนในหน่วยลงทุนที่ไม่มีอยู่จริง เพื่อให้ลูกค้าเชื่อว่าได้นำเงินไปซื้อหน่วยลงทุนจริง

นอกจากนี้ นายธีระศักดิ์ ยังชักชวนให้ลูกค้าเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์กับตน โดยให้ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัว แต่ไม่ทำรายการตามความประสงค์ของลูกค้า

ทำให้ลูกค้าได้รับความเสียหายรวม 6 ราย เป็นเงินจำนวนรวม 980,000 บาท ทั้งนี้ นายธีระศักดิ์ได้ชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวให้แก่ลูกค้าดังกล่าวครบถ้วนแล้ว

โดยทาง ก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของนายธีระศักดิ์เป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ หรือให้บริการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ได้ไปซึ่งทรัพย์สินของผู้ลงทุนโดยมิชอบ และมีพฤติกรรมอันส่อไปในทางไม่สุจริตที่ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในการเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนอย่างมีนัยสำคัญ

ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ก.ล.ต. จึงเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 2 และกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบของ นายธีระศักดิ์ เป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไป เป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2566

ทั้งนี้ ในการพิจารณากำหนดระยะเวลาข้างต้น ก.ล.ต. ได้นำปัจจัยดังต่อไปนี้มาใช้ประกอบการพิจารณาด้วย ได้แก่ บทบาทความเกี่ยวข้อง และพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกพิจารณา การลงโทษที่บุคคลนั้นได้รับไปแล้ว

ผลกระทบความเสียหายหรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น การแก้ไขหรือการดำเนินการอื่นที่เป็นประโยชน์หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของ ก.ล.ต. และประวัติหรือพฤติกรรมในอดีตอื่นใดที่แสดงถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน

อย่างไรก็ตา ก.ล.ต. ขอย้ำให้ผู้ลงทุนตรวจสอบรายการซื้อขายหน่วยลงทุนที่ดำเนินการแล้วเสร็จทันที และตรวจสอบรายงานการถือหน่วยลงทุนและบัญชีเงินฝากอย่างสม่ำเสมอ

รวมทั้งในการโอนเงินลงทุนจะต้องโอนเข้าบัญชีของผู้ประกอบธุรกิจเท่านั้น โดยไม่โอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของผู้แนะนำการลงทุน