นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุว่า ตั้งแต่ต้นปี 2566 ที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นไทยค่าดัชนีติดลบแม้ผ่านการเลือกตั้ง
จากความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาลซึ่งมองว่าหากการจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปได้เรียบร้อย ตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้น หลังปัจจัยกดดันต่างๆคลี่คลาย
เนื่องจากภาคการเมือง ภาคตลาดทุน และภาคเศรษฐกิจเชื่อมโยง ดังนั้นหากจัดตั้งรัฐบาลได้ช้า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ก็จะช้าตามไปด้วย
รวมทั้งประเทศไทยยังเผชิญปัญหา ทั้งสังคมผู้สูงอายุ และหนี้ครัวเรือนที่สูง จึงเป็นเหตุผลทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง เพราะการเมืองถือเป็นปัจจัยที่กระทบต่อหลายภาคส่วน
นอกจากนี้ยังมีความไม่แน่นอน ของหน้าตาฝ่ายรัฐบาล และโอกาสที่อาจเกิดความไม่สงบ ซึ่งถ้าหากรัฐบาลจัดตั้งได้สงบเรียบร้อยคาดว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะปรับตัวขึ้นได้ทันที
ทั้งนี้หากประเมินจากสถิติการเลือกตั้งที่ผ่านมา 5 ครั้งก่อน ตลาดให้ผลตอบแทนเป็นบวกกว่า 2 หลัก ถึง 3 ครั้ง ส่วนอีก 2 ครั้งนั้นให้ผลตอบแทนเสมอตัว แต่ถ้าผลลัพธ์การจัดตั้งรัฐบาลออกมาผิดคาดและมีโอกาสเกิดการชุมนุม นักลงทุนก็อาจจะพิจารณารอประเมินสถานการณ์
แม้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยจะให้ผลตอบแทนต่ำเพียง 11% หรือเฉลี่ยเพียงปีละ 1% กว่าๆ เท่านั้นสอดคล้องกับกำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนไทย
ตลาดหุ้นไทยยังมี 3 ปัจจัยสนับสนุน ประกอบด้วย