Fund Flow ไหลออกทะลุแสนล้าน นักลงทุนลุ้นนโยบายรัฐดึงเชื่อมั่น

07 ก.ย. 2566 | 00:00 น.
อัพเดตล่าสุด :07 ก.ย. 2566 | 02:24 น.

เงินทุนต่างชาติไหลออกต่อเนื่อง “ทะลุแสนล้าน” หลังผิดหวังตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ที่ประกาศออกมา ด้านโบรกฯ ลุ้นนโยบายรัฐบาลใหม่ เน้นกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงความเชื่อมั่นนักลงทุน

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยที่ผ่านมาแม้จะมีการปรับตัวผันผวนทั้งช่วงก่อนการเลือกตั้ง และหลังการเลือกตั้ง จนมาถึงการจัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการ และเตรียมแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถือได้ว่ามีความชัดเจนและความคืบหน้าด้านการเมืองในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลจากก่อนหน้านี้ 

แต่ตัวเลขเงินทุนต่างชาติ หรือ "Fund Flow" กลับยังสวนทางไหลออกไม่หยุด โดยตั้งแต่ต้นปี 66 ถึงปัจจุบัน (6 ก.ย. 66) เงินทุนต่างชาติไหลออกสุทธิถึง 138,935.46 ล้านบาท คิดเป็นครึ่งหนึ่งของเงินลงทุนจากปี 2565 ที่ผ่านมา

โดยนายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า เงินทุนต่างชาติที่ไหลออกจากตลาดหุ้นไทย มาจากปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental) ของประเทศไทย ซึ่งดูได้จากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย หรือ จีดีพี ที่ประกาศออกมาไตรมาสที่ 2 ของปี ต่ำกว่าที่คาดเอาไว้

ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาเป็นช่วงสุญญากาศทางการเมือง ทำให้เงินทุนไหลออก แม้จะได้รัฐบาลใหม่แล้วก็ตาม แต่เงินทุนยังไม่ไหลกลับเข้ามา เพราะจังหวะไม่ดี เนื่องจากเศรษฐกิจไทยถูกกระทบจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ล่าช้า 

รวมทั้ง "ราคาพลังงาน" ที่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้กังวลถึงผลกระทบต่อมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ว่าจะทำได้เต็มที่หรือไม่ 

เพราะต้องคอยนำวงเงินงบประมาณไปแทรกแซง ในเรื่องของราคาพลังงาน ซึ่งในเรื่องนี้ใช้วงเงินงบประมาณค่อนข้างสูง ถือเป็นประเด็นที่นักลงทุนต่างชาติจับตารอ

Fund Flow ไหลออกทะลุแสนล้าน นักลงทุนลุ้นนโยบายรัฐดึงเชื่อมั่น

"หลักๆมาจากเรื่องของตัว Fundamental ด้วยความที่ตัวเลขเศรษฐกิจเราไม่มาตามที่คิด ตามที่เค้าคาดหวัง โตในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยภูมิภาค ก็เลยทำให้ Flow Underweight จนกว่าจะมีข้อมูลมาหักล้าง คงต้องรอสัญญาณตัวเลขเศรษฐกิจที่จะกลับมาฟื้นดีขึ้นกว่านี้" นายณัฐพล กล่าว

นอกจากนี้อีกประเด็นในเรื่องของ "ความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ" จะขึ้นอยู่กับ นโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ ที่จะมีการประกาศออกมา แต่หากไม่มีอะไรออกมาดึงดูด ก็คงต้องรอการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสที่ 3 ของไทยว่าจะดีขึ้นตามคาดหรือไม่

แต่หากจะหวังในส่วนของเงินทุนที่จะไหลกลับอีกประเด็น คงต้องลุ้นให้ทาง ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญานในการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ในการประชุมวันที่ 20 กันยายนนี้ ซึ่งจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าและค่าเงินบาทแข็งค่าอาจทำให้เงินทุนไหลกลับเข้าประเทศไทยได้

ทั้งนี้หาก เฟด ยังไม่ส่งสัญญาณการคงอัตราดอกเบี้ยเราต้องมารอลุ้นให้ รัฐบาลของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการท่องเที่ยว เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นให้ได้ เพื่อที่จะทำให้มีโอกาสที่เงินทุนจะไหลกลับเข้ามาได้

ขณะที่เงินทุนต่างชาติในปัจจุบันนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาไหลออกนอกประเทศไปถึง 50% นับเป็นครึ่งหนึ่งจากการลงทุนในปีที่ผ่านมา (2565) หรือคิดเป็นวงเงินกว่า 1 แสนล้านบาท 

ถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะการไหลออกของเงินทุนต่างชาติไม่ใช่เรื่องที่ดี รวมทั้งประเทศไทยมีการไหลออกสูงสุดในภูมิภาคอาเซียน

Fund Flow ไหลออกทะลุแสนล้าน นักลงทุนลุ้นนโยบายรัฐดึงเชื่อมั่น

อย่างไรก็ตามการไหลออกของเงินทุนเคลื่อนย้ายเชื่อว่าจะไม่มากไปกว่านี้แล้ว เพราะการที่ขายออกไป 50% เหมือนการลดความเสี่ยงไปแล้วครึ่งหนึ่งจากการลงทุน 

รวมทั้งการมีรัฐบาลอย่างเป็นทางการอาจสร้างความคาดหวังเศรษฐกิจที่จะดีกว่าจากในช่วงที่ผ่านมา ในช่วงการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลที่เศรษฐกิจอาจชะลอตัวลงไป และการไหลออกในระยะนี้เชื่อว่าจะเป็นการปรับสมดุลย์

ทั้งนี้ในท้ายที่สุดยังเชื่อว่า "เงินทุนต่างชาติ" จะไหลกลับเข้ามาในช่วงที่เหลือของปีนี้ หลังภาพรวมเศรษฐกิจไทย มีความชัดเจนในการฟื้นตัว หรือคิดเป็นเม็ดเงินที่จะกลับเข้ามาประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาท