นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จํากัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ต้องการนำเสนอรัฐบาลใหม่ให้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ซึ่งมีการแพร่ระบาดและมีการใช้ฐานของต่างประเทศเป็นแหล่งหลอกลวงมายังประเทศไทย
ซึ่งมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ และยังเป็นการสร้างผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นขอให้ประชาชนมีการตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดก่อนจะตัดสินใจลงทุน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาอมตะเป็นหนึ่งในเป้าหมายของกลุ่มมิจฉาชีพที่มีการนำข้อมูลมาเชิญชวนให้ประชาชนร่วมลงทุนผ่านระบบออนไลน์ ทั้งเฟสบุ๊ก และไลน์ โดยใช้วิธีจูงใจให้ผลตอบแทนสูงในระยะสั้นเกินความเป็นจริง ซึ่งพบว่ามีเพจหลายรูปแบบที่มาชักชวนจูงใจทำให้ประชาชนเกิดความสูญเสียทรัพย์สินและเงินทองมูลค่าสูง
ขณะนี้แม้จะมีการปราบปรามและจับกุมผู้กระทำผิดไปแล้วหลายครั้งตั้งแต่ปี 2565 – 2566 เป็นจำนวนมาก แต่สถานการณ์ก็ยังไม่คลี่คลาย ดังนั้น อมตะจึงยังไม่หยุดนิ่งที่จะดำเนินการให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและตลาดหลักทรัพย์ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารและเกิดความระมัดระวังในการลงทุน
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีแผนที่จะดำเนินการกับผู้กระทำผิดโดยการยึดทรัพย์มูลค่า 600 ล้านบาท เพื่อมาเฉลี่ยทรัพย์ที่ตรวจยึดคืนแก่ผู้เสียหาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้เสียหายในเบื้องต้น
นอกจากนี้ยังมีระบบเตือนภัยผ่านข้อมูลข่าวสารทางเพจตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้ประชาชนใช้เป็นจุดสังเกตก่อนการตัดสินใจการลงทุน โดยสังเกตได้จากเครื่องหมาย Blue Badge หรือเครื่องหมายถูกสีฟ้า ที่แสดงถึงบัญชีหลักของเพจอมตะ หรือบริษัทอื่นๆที่เป็นเป้าหมายของกลุ่มมิจฉาชีพ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ