กองทุนไทยเพื่อความยั่งยืน Thailand ESG Fund (TESG) ถูกจัดตั้งขึ้น เพื่อสนับสนุนการออมระยะยาว ผ่านการลงทุนในกลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์ที่เป็น ESG และตราสารหนี้
หลังจากที่กระทรวงการคลังได้ดำเนินการรือร่วมกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) และเห็นชอบให้จัดตั้งกองทุนดังกล่าว
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของ "ฐานเศรษฐกิจ" เกี่ยวกับเงื่อนไข และสิทธิประโยชน์ของกงอทุน TESG พบว่า
ขณะที่เงื่อนไขในการลดหย่อนภาษี SSF สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของรายได้ไม่เกิน 200,000 บาท
ส่วน RMF ลดหย่อนได้ไม่เกิน 500,000 บาท
แต่ทั้ง 2 กองทุนนี้ เมื่อรวมกับค่าลดหย่อนการออมเพื่อเกษียณอื่น ๆ แล้ว ( อาทิ กอช., กบข, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน, เบี้ยประกันบำนาญ ) จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระรวงการคลัง ระบุว่า กระทรวงการคลังนำเรื่องเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 21 พ.ย.นี้ เพื่อออกกฎกระทรวงในการตั้งกองทุน ก่อนขอความร่วมมือจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการออกหลักเกณฑ์
และคาดว่า TESG จะเริ่มเปิดให้ลงทุนได้ในเดือนธ.ค.66 เพื่อให้ประชาชนได้รับการลดหย่อนภาษีในเดือนมี.ค.2567 โดยคาดว่ากองทุน TESG จะกระตุ้นให้มีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท
โดยปัจจุบัน จากข้อมูลพบว่า บริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในตลาดและเกี่ยวกับ ESG มีประมาณ 210 บริษัท จากทั้งหมด 800 บริษัท ซึ่งถือว่ามีจำนวนมากพอสำหรับการเลือกลงทุน ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะส่งผลให้มีบริษัทจดทะเบียนปรับการดำเนินธุรกิจสู่ ESG มากยิ่งขึ้น