จากการที่บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางขอฟื้นฟูกิจการ เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2566 จากการขาดสภาพคล่องอย่างหนัก หนี้สินมากกว่าสินทรัพย์กว่า 4.2 พันล้านบาท และในเวลาต่อมาศาลฯ มีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัท และเป็นเหตุให้บริษัทฯ เกิดสภาวะการ "พักชำระหนี้" ( Automatic Stay) รวมไปถึงการพักชำระหนี้หุ้นกู้ทั้ง 7 รุ่น มูลหนี้ 3,212.15 ล้านบาท ส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นกู้กว่า 500 คนถ้วนหน้า
ทั้งนี้ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) ออกแถลงการณภายหลังการหารือร่วมระหว่าง ThaiBMA กับบริษัทหลักทรัพย์ คือ บล.ดาโอ และ บล.เอเซียพลัส ซึ่งเป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้จำนวน 15 รายของ JKN ทั้ง 7 รุ่น มูลหนี้รวม 3,212.15 ล้านบาท เกี่ยวกับกรณีที่บริษัท JKN เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ
โดยที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่า จะดำเนินการจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ JKN ภายในต้นเดือนธันวาคม 2566 เพื่อให้ความรู้และสร้างความเข้าใจแก่ผู้ถือหุ้นกู้เกี่ยวกับกระบวนการฟื้นฟูกิจการ และสิทธิหน้าที่ของผู้ถือหุ้นกู้ภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการ รวมถึงแนวทางในการดูแลผู้ถือหุ้นในการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ในการกระบวนการฟื้นฟูกิจการ
ขณะเดียวกัน ก.ล.ต. ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ได้จัดให้มีบรรยายผ่านช่องทาง Facebook Live “สำนักงาน กลต.” ในเรื่อง “กระบวนการฟื้นฟูกิจการและล้มละลาย และ สิทธิของเจ้าหนี้ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการและล้มละลาย” โดยเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นข้อมูลให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป รวมถึงผู้ได้รับผลกระทบจากการฟื้นฟูกิจการ พร้อมกันนี้ยัวได้เผยแพร่ ข้อมูล " คำถาม - คำตอบ เกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการ " เพื่อให้ผู้ถือหุ้นกู้ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิของตนและกระบวนการดังกล่าว ถือเป็นการศึกษาทำความเข้าใจก่อนจะมีข้อซักถามเพิ่มจากวิทยากร ดังนี้
การฟื้นฟูกิจการ
1. ความแตกต่างของการฟื้นฟูกิจการและการล้มละลาย
ตอบ
2. ขั้นตอนของศาลฯ ในกระบวนการขอฟื้นฟูกิจการเป็นอย่างไร และกำหนดการโดยประมาณของการทำแผน และปฏิบัติตามแผน
ตอบ :
ขั้นตอน กระบวนการขอฟื้นฟูกิจการ และกำหนดการโดยประมาณของการทำแผน และปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูกิจการ เป็นดังต่อไปนี้
3. สิทธิและหน้าที่ของเจ้าหนี้ที่ควรทราบมีอะไรบ้าง
ตอบ :
สิทธิและหน้าที่ของเจ้าหนี้ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ มีดังต่อไปนี้
1) เมื่อศาลรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการแล้ว แต่ยังไม่ถึงวันนัดไต่สวน
2) กรณีที่ศาลมีคําสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและไม่มีคำสั่งตั้งผู้ทำแผน
ผู้ทำแผน
3) กรณีที่ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ทำแผน
4. หากศาลฯ พิจารณาไม่รับแผนฟื้นฟู แต่ละฝ่ายจะต้องดำเนินการอย่างไร
ตอบ :
หากศาลมีคำสั่งไม่เห็นชอบด้วยแผน สามารถแบ่งได้ 2 กรณี ดังนี้
5. จะมีการเปิดเผยร่างแผนฟื้นฟูและความคืบหน้าต่อสาธารณะหรือไม่ ผู้ถือหุ้นกู้จะสามารถติดตามได้จากช่องทางใดบ้าง
ตอบ :
เจ้าหนี้ทุกรายจะได้รับร่างแผนฟื้นฟูกิจการก่อนการประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนดังกล่าวและแผนฟื้นฟูกิจการเป็นข้อตกลงระหว่างเจ้าหนี้กับผู้ทำแผนและลูกหนี้ จึงไม่จำต้องมีการรายงานความคืบหน้าต่อสาธารณะแต่อย่างใด
6. หากผู้ถือหุ้นกู้ไม่เห็นด้วยกับแผนฟื้นฟูจะต้องดำเนินการอย่างไร
ตอบ :
เจ้าหนี้มีสิทธิขอแก้ไขแผนได้ไม่น้อยกว่า 3 วันก่อนวันนัดประชุมเจ้าหนี้ โดยให้ยื่นคำขอต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ แต่หากเป็นกรณีที่ไม่เห็นด้วยกับการจัดกลุ่มเจ้าหนี้สามารถยื่นต่อศาลได้ภายใน 7 วันนับแต่วันที่ทราบการจัดกลุ่ม และในการประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผน ต้องลงมติไม่รับแผนจึงจะมีสิทธิคัดค้านได้ที่ศาลล้มละลายกลาง อย่างไรก็ตาม แม้เจ้าหนี้จะลงมติไม่รับแผนแต่แผนผ่านมติที่ประชุมเจ้าหนี้และศาลเห็นชอบด้วยแผน เจ้าหนี้ที่ไม่ยอมรับแผนก็จะต้องผูกพันตามแผนด้วย
7. การออกหุ้นกู้แต่ละครั้งได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น และข้อกำหนดสิทธิหุ้นกู้ เป็นสัญญามหาชนกล่าวคือ ระหว่างผู้ออกหุ้นกู้กับผู้ลงทุน ซึ่งมิได้ผูกพันเฉพาะบุคคลเหมือนสัญญาเงินกู้ ที่ทำเป็นลักษณะเฉพาะ นอกจากนี้ ยังเป็นไปตามเกณฑ์ของ พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ซึ่งข้อกำหนดสิทธิได้รับการพิจารณาแล้วจาก ก.ล.ต. การพิจารณาหนี้สินที่เกิดจากการออกหุ้นกู้ตามกฎหมายมหาชน และพ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ จะพิจารณาแตกต่างหรือเหมือนกับเจ้าหนี้ที่มีหนี้สินทางการเงินปกติหรือไม่
ตอบ :
ในการพิจารณาเรื่องสิทธิในการรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้แต่ละประเภท รวมถึงเจ้าหนี้หุ้นกู้และเจ้าหนี้เงินกู้ จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาจัดกลุ่มเจ้าหนี้ของผู้ทำแผน ซึ่งจะพิจารณาจากหลายปัจจัยเช่น การมีทรัพย์สินเป็นประกัน และความด้อยสิทธิ เป็นต้น ทั้งนี้ ในกรณีที่เจ้าหนี้หุ้นกู้และเจ้าหนี้เงินกู้ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเจ้าหนี้ประเภทเดียวกัน ก็จะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน แต่หากถูกจัดอยู่คนละกลุ่ม การจะได้รับปฏิบัติต่างกันหรือไม่จะขึ้นอยู่กับแผน
8. เจ้าหนี้ที่เกิดจากการรับซื้อหุ้นกู้ในตลาดรอง จะได้รับการดูแลเหมือน หรือแตกต่างกับเจ้าหนี้ที่เป็นผู้ถือหุ้นกู้ตั้งแต่เสนอขายครั้งแรก
ตอบ :
มีสิทธิและจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน เนื่องจากเป็นเจ้าหนี้ประเภทเดียวกัน
9. การมอบอำนาจจากเจ้าหนี้ให้ตัวแทนดำเนินการทางคดี สามารถมอบอำนาจครั้งเดียวให้ดำเนินการจนจบขั้นตอนฟื้นฟูได้หรือไม่ เพราะการมอบอำนาจหลายครั้งอาจมีความไม่สะดวกในการตามเจ้าหนี้รายย่อยหลายครั้ง
ตอบ :
ในหนังสือมอบอำนาจ ผู้มอบอำนาจสามารถกำหนดขอบเขตได้ว่าจะให้ผู้รับมอบอำนาจดำเนินการอะไรแทนตนได้บ้าง เช่น การยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ การลงคะแนนเสียงในที่ประชุมเจ้าหนี้ เป็นต้น ดังนั้น หากเจ้าหนี้ต้องการให้ตัวแทนดำเนินการแทนตนจนจบกระบวนการฟื้นฟูกิจการ ให้ระบุไว้ให้ชัดเจน จึงสามารถมอบอำนาจครั้งเดียวให้ดำเนินการจนจบขั้นตอนการฟื้นฟูฯ ได้สัญญาแต่งตั้งนายทะเบียน ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ของกิจการที่เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ
10. เมื่อศาลฯ รับแผนฟื้นฟูฯ ข้อกำหนดสิทธิ (สัญญาเงินกู้ระหว่างผู้ลงทุนกับลูกหนี้) ยังมีผลบังคับอยู่หรือไม่ และยังมีข้อใดบ้างที่ยังผูกพันอยู่
ตอบ :
ข้อกำหนดสิทธิเดิมจะไม่ถูกยกเลิกไป เพียงแต่ในระหว่างที่ผู้ออกหุ้นกู้อยู่ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ ข้อกำหนดสิทธิดังกล่าวจะไม่ถูกนำมาบังคับใช้โดยการจ่ายชำระหนี้จะเป็นไปตามข้อกำหนดของแผนฟื้นฟูกิจการ อย่างไรก็ดีหากศาลมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการหรือสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดของผู้ออกหุ้นกู้ข้อกำหนดสิทธิดังกล่าวจะถูกนำกลับมาใช้บังคับตามเดิม และผู้ถือหุ้นกู้สามารถฟ้องร้องเรียกรับชำระหนี้จากผู้ออกหุ้นกู้ตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดสิทธิได้