นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยว่า KTAM พร้อมที่จะเดินหน้าเต็มที่ในการจัดตั้งกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน หรือ Thailand ESG Fund (Thai ESG) ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้คนไทยมีทางเลือกและการลงทุนในระยะยาวเพิ่มขึ้น และยังเป็นการเพิ่มการลงทุนระยะยาวในตลาดทุนไทย อันจะทำให้เสถียรภาพของตลาดทุนไทยในกิจการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลเพิ่มขึ้น อันจะมีส่วนช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยคาดว่าจะเสนอขายได้ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้
"KTAM ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการลงทุนอย่างยั่งยืน เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายผ่านการลงทุนที่มีส่วนช่วยสนับสนุนสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยกองทุน Thai ESG นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยสนับสนุนการเติบโตของ ESG (ESG: Environmental, Social and Governance) เป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทยมีบริษัทจดทะเบียนกว่า 800 บริษัท แต่มีบริษัทที่ยื่นเอกสารหรือกรอกข้อมูล ESG มีเพียง 210 แห่งเท่านั้น ดังนั้น กองทุนนี้จะช่วยผลักดันบริษัทในประเทศไปสู่สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมภิบาล มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับนักลงทุนอีกด้วย" นางชวินดา กล่าว
สำหรับกองทุน Thai ESG เป็นกองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมจากกลุ่มกองทุนเพื่อการเกษียณทั้งหมด ซึ่งเดิมประกอบด้วย กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนสงเคราะห์ครูฯ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนการออมแห่งชาติ และประกันชีวิตแบบบำนาญ ที่สามารถลงทุนรวมกันสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
เงื่อนไข-สิทธิประโยชน์ทางภาษี ของกองทุน Thai ESG
กองทุน Thai ESG เน้นลงทุนในหุ้นไทย และตราสารหนี้ไทย ที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม บรรษัทภิบาล ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด โดยกำหนดให้
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทุกวันทำการได้ที่ บลจ.กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 สนใจเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชั่น KTAM Smart Trade ได้ที่ https://bit.ly/KTSTSignIn