ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 เผยแพร่ประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เรื่อง ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิจากการกระทำความผิดมูลฐาน รายคดี นายชนินทร์ เย็นสุดใจ กับพวก เกี่ยวกับกรณี บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ได้มีพฤติการณ์เกี่ยวกับการลงข้อความเท็จ ทำบัญชีไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือ ไม่ตรงต่อความเป็นจริง
ทั้งนี้ตามประกาศ ระบุว่า ด้วยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 11/2566 เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว มีกำหนด ไม่เกิน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ ในความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง ประชาชน และความผิดเกี่ยวกับการยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ รายคดี นายชนินทร์ เย็นสุดใจ กับพวก กล่าวคือ
บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK และบริษัทย่อย ได้มีพฤติการณ์เกี่ยวกับการลงข้อความเท็จ ทำบัญชีไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือ ไม่ตรงต่อความเป็นจริง ในบัญชีหรือเอกสารของบริษัท ในปี 2564 ถึงปี 2565 และเปิดเผย ข้อความอันเป็นเท็จในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้ และร่างหนังสือชี้ชวน (“แบบแสดงรายการข้อมูล”)
โดยเปิดเผยงบการเงินประจำปี 2564 ที่มีการตกแต่งบัญชีและ ปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งในแบบแสดงข้อมูลในส่วนสรุปข้อมูลสำคัญของตราสาร (Factsheet) โดยการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำโดยทุจริตหลอกลวง และโดยการหลอกลวงนั้น ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง ดังนี้
บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีการยื่นคำขออนุญาตและ แบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน (แบบ Filing) โดยอาศัยข้อเท็จจริงที่มีการตกแต่งบัญชี และเอกสารที่เกี่ยวข้องของบริษัทฯ อันเป็นข้อความเท็จ รวมถึงปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเสนอขายหุ้นกู้ต่อผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ เป็นเหตุให้ผู้ลงทุนดังกล่าว ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 49/1 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2565 จึงขอให้บุคคลผู้ได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทำความผิดมูลฐานในรายคดีดังกล่าว และไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น
ยื่นคำร้องพร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดแห่งความเสียหาย และจำนวนความเสียหายที่ได้รับต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ภายใน 90 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
สำหรับรายละเอียดการยื่นคำร้อง มีดังนี้
ขั้นตอนและวิธีการยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิจากการกระทำความผิดมูลฐาน
1.ผู้มีสิทธิยื่นคำร้องฯ ต้องเป็น “ผู้เสียหาย” จากการกระทำความผิดมูลฐาน โดยมีเอกสารประกอบ ดังนี้
2.วิธีการยื่นคำร้องฯ มี 2 ช่องทาง ดังนี้
ทั้งนี้ สามารถยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิด้วยตนเองหรือมอบอำนาจ ให้บุคคลอื่นมาดำเนินการแทน (โดยมีหนังสือมอบอำนาจพร้อมติดอากรแสตมป์ 30 บาท) และเอกสารทุกฉบับต้องรับรองสำเนาถูกต้อง
3.ระยะเวลายื่นคำร้องฯ
ภายในกำหนดเวลา 90 วัน นับแต่วันที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือ ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 ถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ถึง 16.30 น. (ยกเว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์)
ในกรณีที่เอกสารหลักฐานไม่ครบถ้วน หากพนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้ส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมแล้ว ต้องดำเนินการนำส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม ภายในระยะเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่กำหนดไว้ (ระยะเวลานำส่งเอกสารเพิ่มเติมดังกล่าว ต้องอยู่ภายในกำหนดเวลา 90 วัน นับแต่วันที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา)
เช็ครายละเอียด และดาวน์โหลดแบบคำร้องขอคุมครองสิทธิ คลิกที่นี่