โค้งสุดท้าย ลดหย่อนภาษีเพิ่ม ซื้อ"กองทุน TESG" เช็คสิทธิประโยชน์-เงื่อนไข

07 ธ.ค. 2566 | 23:31 น.
อัพเดตล่าสุด :08 ธ.ค. 2566 | 00:11 น.

โค้งสุดท้าย ลงทุน"กองทุนรวม Thai ESG" ลดหย่อนภาษีสูงสุด 30% เปิดขายพร้อมกันทั้ง 22 กองทุน จาก 16 บลจ. เริ่มวันนี้ ( 8 ธันวาคม 2566) เช็คเงื่อนไขการลงทุน สิทธิประโยชนทางภาษี

วันนี้ ( 8 ธันวาคม 2566 ) กองทุนรวมรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund) หรือ Thai ESG ล็อตแรกจำนวน 22 กองทุน จาก 16 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) จะเสนอขายพร้อมกัน เพื่อเปิดให้นักลงทุนเลือกลงทุนได้ตามเป้าหมายการลงทุน และระดับความเสี่ยงที่ได้รับ และรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี 


กองทุนรวม Thai ESG คืออะไร

กองทุนรวม Thai ESG  เป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินด้านความยั่งยืนที่มีความหลากหลายที่ผู้ออกทรัพย์สินนั้นเป็นภาครัฐหรือกิจการที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)  เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 ที่เห็นชอบมาตรการภาษี เพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย  ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

 

โค้งสุดท้าย ลดหย่อนภาษีเพิ่ม ซื้อ\"กองทุน TESG\" เช็คสิทธิประโยชน์-เงื่อนไข  

 

เงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ทางภาษีกองทุน Thai ESG

  • ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ 30% ของรายได้ทั้งปี  สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทในปีภาษีนั้น ๆ
  • ไม่กำหนดจำนวนเงินซื้อขั้นต่ำ 
  • ต้องลงทุนอย่างน้อย 8 ปีเต็ม หรือเท่ากับ 10 ปีปฏิทิน ตัวอย่างเช่น ซื้อกองทุนวันที่ 20 ธันวาคม 2566 จะครบกำหนดในปี 2575 เป็นต้น
  • ให้สิทธิซื้อตั้งแต่ปี 2566 ถึงปี 2575 (รวมซื้อได้ 10 ปี) แต่ไม่ต้องซื้อต่อเนื่อง ซื้อปีไหนใช้ลดหย่อนภาษีในปีนั้น
  • เงินลงทุนในกองทุน Thai ESG จะไม่ถูกนับรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ  ( ได้แก่ SSF, RMF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD), กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.), กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ  ที่กำหนดเพดานลดหย่อนภาษีรวมกันได้ไม่เกิน 500,000 บาท ) 
  • ดังนั้นเมื่อรวมกับวงเงินลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมจาก กองทุน Thai ESG 100,000 บาท ผู้ลงทุนสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุดได้ถึง 600,000 บาท เริ่มงวดปีภาษี 2566

 

โค้งสุดท้าย ลดหย่อนภาษีเพิ่ม ซื้อ\"กองทุน TESG\" เช็คสิทธิประโยชน์-เงื่อนไข

กองทุน Thai ESG เหมาะสมใคร-ใครได้ประโยชน์มากสุด

  • มีรายได้สุทธิมากกว่า 150,000 บาท ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ต้องเสียภาษี  และต้องการลดหย่อนภาษีด้วยการลงทุน 
  • ผู้มีฐานภาษีสูง ฐานภาษียิ่งสูงยิ่งได้ประโยชน์จากการประหยัดภาษี  ยกตัวอย่าง ซื้อหน่วยลงทุน TESG สูงสุดที่ 100,000 บาทเท่ากัน คนฐานภาษี 5% จะช่วยประหยัดทางภาษี ( 5% x 100,000) ได้เพียง 5,000 บาท, คนฐานภาษี 10% ช่วยประหยัดภาษี (10% x 100,000) ได้ 10,000 บาท, ฐานภาษี 20%  (20% x 100,000) ช่วยประหยัดภาษีได้ 20,000 บาท และสูงสุด กรณีคนฐานภาษี 35% จะช่วยประหยัดภาษีได้มากถึง 35,000 บาท 
  • ต้องการวงเงินลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม นอกเหนือจากที่ลงทุน SSF กับ RMF และกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ที่ใช้จนเต็มสิทธิ 500,000 บาทแล้ว 
  • มองเห็นโอกาสศักยภาพการเติบโตในหุ้นยั่งยืนและธุรกิจที่ดำเนินงานตามหลัก ESG ในประเทศไทย 
  • มีเป้าหมายลงทุนให้เงินเติบโตในระยะยาว สามารถถือ Thai ESG อย่างน้อย 8 ปีขึ้นไป

กองทุน Thai ESG นำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์อะไรบ้าง ?

  • 1.หุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ที่ได้รับการคัดเลือกจาก SET ว่ามีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (environment) หรือด้านความยั่งยืน (ESG)
  • 2. หุ้นที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนใน SET และ mai ที่มีการเปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 
  • 3. ตราสารหนี้ที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การเสนอขายตราสารหนี้ที่เกี่ยวข้องด้านความยั่งยืน 
  • 4.โทเคนดิจิทัลเพื่อการระดมทุนที่เกี่ยวข้องด้านความยั่งยืนที่มีมาตรฐานในทำนองเดียวกันกับตราสารหนี้