หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED ) มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% และวานนี้ (14 ธ.ค.66 ) ผลประชุมของ ECB และ BOE มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 3.25% และ 4.25% ตามลำดับ จึงทำให้ตลาดคาดว่าวัฎจักรการขึ้นดอกเบี้ยสิ้นสุดลงแล้ว และเริ่มเข้าสู่วัฎจักรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ Q1/67 ซึ่ง BLOOMBERG CONSENSUS คาดว่า FED จะเริ่มลดดอกเบี้ยเดือน มี.ค.67 ส่วน ECB - BOE จะเริ่มลดดอกเบี้ยเดือน เม.ย.67
ประเด็นดังกล่าว จึงทำให้ BOND YIELD 10 ปีสหรัฐปรับตัวลงแรง หลุด 4.0% และกดดัน DOLLAR INDEX อ่อนค่าต่อเนื่อง โดยล่าสุดอยู่ระดับ 101.96 จุด ขณะที่ BOND YIELD 10 ปีไทยก็ปรับตัวลงเช่นเดียวกัน โดยล่าสุดอยู่ระดับ 2.78% ลดลงน้อยกว่าสหรัฐฯ และหนุนเม็ดเงิน FLOW ต่างชาติที่ทยอยไหลเข้าตลาดหุ้นแถบเอเชีย
โดยตั้งแต่ต้นเดือน (MTD) ต่างชาติซื้อสุทธิ ไต้หวัน 1.2 พันล้านเหรียญฯ เกาหลีใต้ 660 ล้านเหรียญฯ ฟิลิปปินส์ 17 ล้านเหรียญฯ ขณะที่ ตลาดหุ้นไทยแม้ถูกขายสุทธิ 79 ล้านเหรียญฯ(MTD) แต่เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีเล็กๆ จากที่วานนี้ (14 ธ.ค.66) ต่างชาติซื้อสุทธิ 3.5 พันล้านบาท ( เป็นการซื้อสุทธิครั้งแรกในรอบ 6 วัน) และค่าเงินบาทที่แข็งค่าแรงหลุด 35 บาท/เหรียญฯ
โดยวานนี้ค่าเงินบาทแข็งค่าลงเร็วถึง 2.18% มาอยู่ที่ 34.76 บาท/เหรียญ ซึ่งเป็นการแข็งค่ามากที่สุดในเอเชีย รองลงมาคือ เกาหลีวอนแข็งค่า 1.91%, อินโดฯลูเปีย 1.05% และ จีนหยวน 0.83%
ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส ระบุว่า ได้ทำการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง ส่วนต่าง BOND YIELD 10 ปี สหรัฐกับไทย เทียบกับค่าเงินบาท พบว่า มีทิศทางที่สอดคล้องกัน (COLLERATION 0.7) คือ ถ้าส่วนต่าง BOND YIELD 10 ปีสหรัฐกับไทย (BOND YIELD 10 ปี ของ สหรัฐ ลบ ไทย) แคบลง เป็นตัวช่วยเร่งให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเสมอ ดังนั้นแนวโน้มการใช้นโยบายการเงินของธปท.ที่มีมุมมองคงดอกเบี้ยต่อเนื่อง ต่างกับ FED ที่อาจลดดอกเบี้ยในปีหน้า 3 ครั้ง และปีถัดไป 2 ครั้ง หนุนให้ส่วนต่าง BOND YIELD 10 ปีสหรัฐกับไทย มีแนวโน้มแคบลงต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าเช่นกัน หนุนให้ฟันด์โฟลว์ต่างชาติมีโอกาสไหลเข้ามาในตลาดตลาดหุ้นไทยต่อ เพราะได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มเติม หลังจากที่วานนี้ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทย 3.5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการซื้อสุทธิในวันเดียวที่สูงสุดเป็นอันดับ 7 ของปี
ประเด็นดังกล่าว คาดหนุนให้ SET INDEX มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อได้ ฝ่ายวิจัย ฯ แนะนำหุ้นได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในระยะถัดไป
กลุ่มที่มีต้นทุน หรือหนี้สินสกุลเงินต่างประเทศ
กลุ่มที่เน้นการนำเข้า
กลุ่มที่ได้ประโยชน์หาก Fund Flow ไหลเข้า