APEX ยื่นศาลฯ ขอฟื้นฟูกิจการ เชื่อเป็นผลดีกับทุกฝ่าย หลังขาดสภาพคล่องหนัก

21 ม.ค. 2567 | 07:48 น.
อัพเดตล่าสุด :25 ม.ค. 2567 | 01:05 น.

บอร์ด APEX ไฟเขียวยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางขอฟื้นฟูกิจการ เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 67 เชื่อเป็นผลดีต่อผู้เกี่ยวข้องและบริษัทฯ ในการแก้ไขปัญหาสภาพคล่อง

นายปกรณ ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ APEX เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2567 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 15 เดือนมกราคม พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติให้บริษัท ฯ ในฐานะลูกหนี้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการและให้เสนอผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ ("ผู้ทำแผน") ต่อศาลล้มละลายกลางภายใต้พระราชบัญญัติลัมละลายพ.ศ.2483 (รวมที่แก้ไขเพิ่มเติม)

โดยในวันที่ 19 เดือนมกราคม พ.ศ.2567 บริษัทฯ ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ต่อศาลล้มละลายกลางเป็นที่เรียบร้อยแล้วในการนี้ บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงถึงสรุปรายละเอียดของการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ดังนี้

 

1. บริษัทฯ ในฐานะลูกหนี้ เป็นผู้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง

2. บริษัทฯ ในฐานะผู้ร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ขอเสนอบริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ต่อศาลลัมละลายกลางเพื่อพิจารณาและมีคำสั่งแต่งตั้งเป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ทั้งนี้หากศาลลัมละลายกลางมีคำสั่งให้บริษัทฯฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผนแล้ว ผู้ทำแผนที่ได้รับการแต่งตั้งตามคำสั่งศาลจะมีอำนาจและหน้าที่ในการบริหารจัดการกิจการและทรัพย์สินของบริษัทฯ ต่อไป

3. การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ในครั้งนี้เป็นผลดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้องหรือต่อบริษัทฯ เองในแก้ไขปัญหาด้านสภาพคล่องของบริษัทฯ และจะสามารถประสบความสำเร็จบรรลุวัตถุประสงค์ของแผนฟื้นฟูธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพตามขั้นตอนหรือกระบวนการต่างๆ โดยมีกฎหมายรองรับและให้ความคุ้มครองแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างเป็นธรรม  อีกทั้งบริษัทฯ ยังสามารถประกอบธุรกิจหรือดำเนินกิจการได้อย่างปกติต่อไปได้ ในระหว่างห้วงเวลาซี่งอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ และสามารถดำเนินการควบคู่ไปกับการฟื้นฟูธุรกิจหรือองค์กร เพื่อที่จะปรับปรุงให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่ดียิ่งขึ้นต่อไป
 

ทั้งนี้บริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบถึงความคืบหน้าในการฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ รวมถึงความคืบหน้าอื่นเพิ่มเติมต่อไป

อนึ่ง APEX ประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง โดยไม่สามารถชำระหนี้หุ้นกู้  ( Default Payment)  1 ชุด รุ่น "APEX202A " วงเงิน 765 ล้านบาท จากเดิมที่ครบกำหนดในวันที่ 27 ก.พ. 2563 ก่อนจะโครงสร้างหนี้และเลื่อนจ่ายเป็นวันที่ 26 ก.ย. 2565 แต่ก็ไม่ชำระหนี้ได้

ต่อมาที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้เมื่อวันที่ 5 ม.ค.67 มีมติอนุมัติหลักการกำหนดราคาเสนอขายหลักประกันที่ใช้จำนองกับหุ้นกู้ในราคาไม่ต่ำกว่ามูลหนี้รวมกับดอกเบี้ยค้างชำระ ดอกเบี้ยผิดนัดในอัตรา 10.25% ของต้นเงิน 765 ล้านบาท นับถัดจากวันฟ้องในวันที่ 25 ส.ค.65

ขณะที่ นางณิชาภา ลิ่วศิริ ผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ขายหุ้นทั้งหมด 23.0439% ให้แก่ นายปุนภพ ปุณณกิติเกษม ซึ่งเข้ามาถือหุ้นใหญ่ร่วมกับกลุ่มของนายพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ ที่ถือหุ้นรวมกัน 19.829%