JKN ศาลเลื่อนไต่สวนขอฟื้นฟูกิจการ นัดใหม่ 5-7 มี.ค.67

29 ม.ค. 2567 | 10:01 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ม.ค. 2567 | 10:53 น.

JKN ขอศาลเลื่อนไต่สวน เหตุพยานของผู้ร้องขอ (JKN) ป่วย มีใบรับรองแพทย์ ศาลสั่งนัดใหม่ 5-7 มี.ค. 67 ด้านเจ้าหนี้ไม่เชื่อมั่นคัดค้านลูกหนี้เป็นผู้ทำแผนฯ

29 ม.ค.67 แหล่งข่าวผู้เสียหายจากหุ้นกู้บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เปิดเผยกับ ฐานเศรษฐกิจ ว่า จากที่ศาลล้มละลายกลาง ได้นัดไต่สวนคำร้องยื่นขอฟื้นฟูกิจการของ JKN วันนี้ ผลปรากฏว่า พยานของผู้ร้องขอ (JKN) เจ็บป่วยไม่สามารถเบิกความต่อศาลได้ โดยมีใบรับรองแพทย์มาแสดงศาลฯ  

ดังนั้นศาลจึงได้พิจาณให้เลื่อนนัดพิจารณาไต่สวน มีกำหนดการดังนี้

  • วันที่ 5 มีนาคม 2567 ไต่สวนฝ่ายผู้ร้องขอ
  • วันที่ 6 มีนาคม 2567 ไต่สวนฝ่ายผู้คัดค้าน
  • วันที่ 7 มี.ค.2567 สำรองเผื่อไต่สวนไม่สำเร็จ 

ทั้งนี้ศาล ฯ จะไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีอีกไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ

สำหรับการยื่นคำร้องไต่สวนเพื่อขอฟื้นฟูกิจการ "JKN" ในฐานะลูกหนี้ได้เสนอตัวเป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ โดยเสนอให้ บริษัท สํานักงานกฎหมายฟาร์อีสท์ (ประเทศไทย) จํากัด เป็นที่ปรึกษากฎหมาย และบริษัท เพลินจิต แอดไวเซอรี่ แอนด์ แพลนเนอร์ จํากัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ในการจัดทําแผนฟื้นฟูกิจการแต่ถูกคัดค้านจากเจ้าหนี้ทุกฝ่าย ซึ่งทางเจ้าหนี้ได้เสนอผู้ทำแผน  2 ราย คือ 

  • บริษัท เอิร์นสท์ แอนด์ ยัง (Ernst & Young หรือ EY)  
  • บริษัท ดิสคัฟเวอร์ แมเนจเม้นท์ จำกัด

มูลเหตของการที่ JKN ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลาย เพื่อขอเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ  บริษัทฯ ระบุว่าเนื่องจาก ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2566 JKN  ได้ออกหุ้นกู้ซึ่งยังไม่ครบกําหนดไถ่ถอนจํานวน 7 ชุด รวม 3,360.20 ล้านบาท ต่อมาบริษัทฯ ไม่สามารถจัดการสภาพคล่องให้เป็นไปตามแผน ทําให้บริษัทฯ ผิดนัดชําระหนี้หุ้นกู้รุ่น JKN239A การผ่อนผันการชําระหนี้ รวมถึงการเลื่อนหรือเปลี่ยนแปลงระยะเวลาการชําระหนี้หุ้นกู้ดังกล่าวตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2566 ในวันที่ 27 กันยายน 2566 ถือเป็นเหตุให้ผิดสัญญาหุ้นกู้รุ่นอื่นๆ ทั้ง 6 รุ่น นอกจากนี้ ยังถือเป็นเหตุให้เกิดการผิดสัญญาหุ้นกู้แปลงสภาพ และหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงินด้วย

ในการนี้ บริษัทฯ จึงมีความจําเป็นต้องพิจารณาจัดประเภทหนี้สินใหม่ โดยจัดประเภทหนี้สินประเภทหุ้นกู้ หุ้นกู้แปลงสภาพและหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงิน เป็นหนี้สินหมุนเวียนทั้งจํานวน ณ 30 กันยายน 2566 ทําให้หนี้สินหมุนเวียนสูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียนมาก ยิ่งทําให้บริษัทขาดสภาพคล่องจํานวนสูง