นายปเนต มหรรฆานุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2567 ภาพรวมธุรกิจมีแนวโน้มการขยายตัวที่ค่อนข้างดี สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวที่เติบโตเพิ่มขึ้นจากเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน
โดยในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2567 ยอดขายโดยรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เวียดนาม และอิตาลี มีอัตราการขยายตัวได้แบบตัวเลขหลักเดียวระดับสูง ในขณะที่ยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) ทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยเฉลี่ยเติบโตแบบตัวเลขหลักเดียวระดับต่ำ แต่หากแยกในแต่ละประเทศแล้ว ไทย SSSG เติบโตแบบตัวเลขหลักเดียวระดับต่ำ เวียดนามเติบโตแบบตัวเลขหลักเดียวนะดับกลาง และอิตาลี เติบโตแบบตัวเลขหลักเดียวระดับสูง
ต้องยอมรัยว่า จากมาตรการ Easy E-Receipt ที่ภาครัฐเอามาใช่กระตุ้นเศรษฐกิจและกำลังซื้อในช่วงต้นปี 2567 ค่อนข้างได้การตอบรับที่ดี ทำให้คาดว่าจะเข้ามาช่วยกระตุ้ยยอดขายโดยรวมในไตรมาส 1/2567 ให้เติบโตได้ดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนได้ ขณะที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนมองว่าอาจทรงตัวเนื่องจากตามปกติแล้วไตรมาส 4 ของทุกปีจะเป็นไฮซีซัน รองลงมาเป็นไตรมาส 1
แผนการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมไว้ที่ไม่น้อยกว่า 9-11% จากปีก่อนที่ทำได้ 248,688.43 ล้านบาท เช่นเดียวกันกับยอดขายที่เติบโต 9-10% จากปีก่อน ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เติบโต 15-17% จากปีก่อน และจะคงความสามารถในการรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ที่เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 26.7% ใกล้เคียงกับปีก่อน
ทั้งนี้ บริษัทเป้าหมายการเติบโตของยอดขายในประเทศไว้ที่ 9-11% จากปีก่อน ส่วนในประเทศเวียดนามบริษัทวางเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 9-10% เช่นเดียวกัน ซึ่งในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตอยู่ที่ตัวเลขหลักเดียวระดับสูง ขณะที่ประเทศอิตาลี บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของยอดขายไว้ที่ 5-6% จากปีก่อน
งบการลงทุนในปี 2567 บริษัทวางการใช้เงินลงทุนไว้ที่ประมาณ 22,000-24,000 ล้านบาท หลักๆ เพื่อลงทุนรองรับการขยายสาขาศูนย์การค้าใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มเติม ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 2 แห่ง ที่จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเปิดตัวไปแล้วเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และที่จังหวัดนครปฐม และรีโนนเวทศุนย์เดิม 4 สาขา, ไทยวัสดุ เปิดใหม่ 9 สาขา และรีโนเวทสาขาเดิม 4 สาขา, ท็อป เปิดใหม่ 10 สาขา และรีโนเวทสาขาเดิม 7 สาขา, เปิด Go Wholesale แห่งใหม่ 7 สาขา และการเปิด GO! Mall และ GO! Hypermarket 3 สาขา และ GO! mini 9 สาขา