KEY
POINTS
หุ้นกู้มีปัญหา : จากสภาพคล่องตึงตัว ภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น และปัญหาการหาแหล่งเงิน Roll Over ดังจะเห็นจาก รายงานสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เมื่อต้นเดือนนี้ได้สรุปภาวะตลาดหุ้นกู้ในช่วงไตรมาส 1/2567 (ม.ค.-มี.ค.) มีมูลค่าการออกหุ้นกู้ภาคเอกชน จำนวน 207,126 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 24.41% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) ที่มียอดออกหุ้นกู้ 274,027 ล้านบาท
ปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ "หุ้นกู้ผิดนัดชำระหนี้" มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งจากการสืบค้นของ"ฐานเศรษฐกิจ" จากข้อมูลรายงาน ThaiBMA พบช่วงไตรมาสแรกปี 2567 หุ้นกู้มีปัญหา กลุ่มผิดนัดชำระหนี้และปรับโครงสร้างหนี้ มีมูลค่ารวม 48,213.71 ล้านบาท ( ไม่รวมกลุ่มฟื้นฟูกิจการ 3 บริษัท รวม 74,057 ล้านบาท)
แยกเป็น 1.หุ้นกู้ผิดนัดชำระหนี้ 9 บริษัท มูลหนี้ 22,904.93 ล้านบาท โดย 2 บริษัทฯที่เพิ่มเข้ามาในไตรมาสแรกปีนี้ คือ บริษัท พี พี ฮอลิเดย์ จำกัด (PPH) วงเงินต้น 392.00 ล้านบาท และ บริษัท ซิซซา กรุ๊ป จำกัด (CISSA ) วงเงินเงินต้น 217.80 ล้านบาท หุ้นกู้ทั้ง 2 บริษัทมีหลักประกัน และ
2.หุ้นกู้ปรับโครงสร้างหนี้ 15 บริษัท มูลหนี้ 25,308.78 ล้านบาท โดยมี 3 บริษัทที่เพิ่มเข้ามา คือ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) หรือ ITD 5 ชุด วงเงินต้น 14,455 ล้านบาท , บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOCON 1 ชุด วงเงินต้น 270 ล้านบาท และ บริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ PROEN มี 1 ชุด วงเงินต้น 400 ล้านบาท ส่วนใหญ่ได้ขอขยายเวลาไถ่ถอน โดยปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มให้
ทั้งนี้หุ้นกู้มีปัญหา ไตรมาสแรกปี 2567 มูลค่าคงค้าง 122,270.71 ล้านบาท คิดเป็น 2.55% ของมูลค่าหุ้นกู้คงค้าง 4.84 ล้านล้านบาท เทียบสิ้นปี 2566 ที่มีมูลค่าคงค้าง 106,838 ล้านบาท คิดเป็น 2.28% ของมูลค่าหุ้นกู้คงค้าง 4.68 ล้านล้านบาท ( เป็นกลุ่มผิดนัดชำระหนี้ 7 บริษัท 22,295.13 ล้านบาท ปรับโครงสร้างหนี้ 14 บริษัท 11,485.89 ล้านบาท และเป็นกลุ่มฟื้นฟูกิจการ 3 บริษัท รวม 73,057 ล้านบาท ) รายละเอียดดังนี้
หุ้นกู้ที่ผิดนัดชำระหนี้ ( Default Payment ) 9 บริษัท วงเงินต้นรวม 22,904.93 ล้านบาท ได้แก่
1.หุ้นกู้ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) มี 5 ชุด มูลหนี้เงินต้นรวม 9,198.40 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ บมจ.เจเคเอ็นโกลบอล กรุ๊ป (JKN ) มี 7 ชุด มูลหนี้เงินต้นรวม 3,212.15 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) มี 1 ชุด มูลหนี้เงินต้นรวม 3,000.00 ล้านบาท
4.หุ้นกู้ บมจ.เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป (ACAP) มี 7 ชุด มูลหนี้เงินต้นรวม 2,575.38 ล้านบาท
5.หุ้นกู้ บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์(ALL) มี 7 ชุด มูลหนี้เงินต้นรวม 2,334.20 ล้านบาท
6.หุ้นกู้ บจก.เดซติเนชั่น รีสอร์ทส์ (DR) มี 2 ชุด มูลหนี้เงินต้นรวม 1,210.00 ล้านบาท
7.หุ้นกู้ บมจ.เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ (APEX) มี 1 ชุด มูลหนี้เงินต้น 765.00 ล้านบาท
8.หุ้นกู้ บจก.พี พี ฮอลิเดย์ (PPH) มี 1 ชุด มูลหนี้เงินต้น 392.00 ล้านบาท
9.หุ้นกู้ บจก.ซิซซา กรุ๊ป จำกัด (CISSA ) มี 1 ชุด มูลหนี้เงินต้น 217.80 ล้านบาท
หุ้นกู้กลุ่มปรับโครงสร้างหนี้ มี 15 บริษัท วงเงินต้นรวม 25,308.78 ล้านบาท ได้แก่
1.บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ( ITD ) มี 5 ชุด มูลหนี้เงินต้น 14,455 ล้านบาท
2.หุ้นกู้ บมจ.เจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล (JCK) มี 6 ชุด มูลหนี้เงินต้น 3,308.01 ล้านบาท
3.หุ้นกู้ บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ (CGD) มี 4 ชุด มูลหนี้เงินต้น 1,981.53 ล้านบาท
4.หุ้นกู้ บจก.ภูเก็ต แฟนตาเซีย (PHUKET) มี 6 ชุด มูลหนี้เงินต้น 1,768.70 ล้านบาท
5.หุ้นกู้ บจก.ไอริส กรุ๊ป (IRIS) มี 4 ชุด มูลหนี้เงินต้น 870.00 ล้านบาท
6.หุ้นกู้ บมจ.ช ทวี (CHO) มี 4 ชุด มูลค่ารวม 745.69 ล้านบาท
7.หุ้นกู้ บจก.สยามนุวัตร (SNW) มี 3 ชุด มูลหนี้เงินต้น 520 ล้านบาท
8.หุ้นกู้ บมจ.โปรเอ็น คอร์ป (PROEN ) มี 1 ชุด มูลหนี้เงินต้น 400 ล้านบาท
9.หุ้นกู้ บจก.เจซี เควิน ดีเวลลอปเม้นท์ (JCKD) มี 1 ชุด มูลหนี้เงินต้น 375 ล้านบาท
10.หุ้นกู้ บมจ.โกลบอล คอนซูเมอร์ (GLOCON) 1 ชุด มูลหนี้เงินต้น 270 ล้านบาท
11.หุ้นกู้ บมจ.จี แคปปิตอล (GCAP) มี 3 ชุด มูลค่ารวม 265.86 ล้านบาท
12.หุ้นกู้ บจก.วอเตอร์เกท โฮเต็ล (WGH) มี 1 ชุด มูลค่ารวม 150 ล้านบาท
13.หุ้นกู้ บจก.ไทย บอนเนต เทรดดิ้ง โซน(TBTZ) มี 1 ชุด มูลค่ารวม 100 ล้านบาท
14.หุ้นกู้ บมจ.ซีเอ็มโอ (CMO) มี 1 ชุด มูลค่ารวม 65.00 ล้านบาท
15.หุ้นกู้ บมจ.ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (TLUXE ) มี 1 ชุด มูลค่า 33.99 ล้านบาท