วันนี้ 10 เม.ย.67 บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY แจ้ง ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 โดยมีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2567เพื่อพิจารณาอนุมัติลดทุนจำนวนไม่เกิน 46,940,325 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 2,108,310,691 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 2,061,370,366 บาท โดยการตัดหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 46,940,325 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เนื่องจากเป็นหุ้นที่จัดสรรไว้เพื่อรองรับการแปลงสภาพของ ESOP-WA ที่หมดอายุ และ ESOP-WC ที่ยกเลิกและไม่ได้มีการจัดสรร
เพิ่มทุน 2,510 ล้านบาท ขาย PP 2.30 บาท/หุ้น
อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2567 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวนไม่เกิน 2,510,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 2,061,370,366 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 4,571,370,366 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวนไม่เกิน 2,510,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท แบ่งเป็น จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 1,300,000,000 หุ้น เสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement : PP ) ในราคาเสนอขายหุ้นละ 2.30 บาท คิดเป็นสัดส่วนรวมทังสิ้นไม่เกินร้อยละ 42.39 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ ให้แก่
และรองรับการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะชื่อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ครั้งที่ 3 (SABUY-W3) จำนวนไม่เกิน 1,210,000,000 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่าการเสนอขาย (ราคาเสนอขายต่อหน่วยเท่ากับ 0 บาท) ซึ่งคิดเป็นหุ้นสามัญที่จัดสรรไว้เพือรองรับการใช้สิทธิจำนวนไม่เกิน 1,2 10,000,000 หุ้น (ร้อยละ 68.50 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท) เพื่อจัดสรรให้แก่ PP มีอัตราการการใช้สิทธิ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1 หุ้นสามัญ
โดยใบสำคัญเเสดงสิทธิ SABUY-W3 จะมีอายุ 5 ปี นับแต่วันที่ออก และมีราคาใช้สิทธิเท่ากับ 3.00 บาทต่อหุ้น โดย Lightnet Pte. Ltd ที่ได้รับจัดสรร SABUY-W3 จำนวนไม่เกิน 800,000,000 หน่วย นายอานนท์ชัย วีระประวัติ ได้รับจัดสรร SABUY-W3 จำนวนไม่เกิน 60,000,000 หน่วย และ Hiwell Global Co. ได้รับจัดสรร SABUY-W3 จำนวนไม่เกิน 350,000,000 หน่วย
ภายหลังธุรกรรมการออกและเสนอขายหุ้น PP ทาง Lightnet Pte. Ltd. จะได้มาซึ่งหุ้นของบริษัทฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40.38 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดภายหลังการเพิ่มทุน ข้ามจุดที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทที่ร้อยละ 25.00 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดและมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอชื่อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท
อย่างไรก็ดี Lightnet Pte. Ltd มีความประสงค์ที่จะขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท โดยอาศัยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท (Whitewash) โดยจะต้องได้ รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้น ที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนธุรกรรมการออกและเสนอขายหุ้น PP
ระดมทุุน 6,620 ล้านบาท ใช้หนี้เป็นทุนหมุนเวียน
บริษัทฯ จะได้รับเงินจำนวนไม่เกิน 2,990,000,000 บาท และหากมีการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ SABUY-W3 ทั้งจำนวน บริษัทฯ จะได้รับเงินจำนวนไม่เกิน 3,630,000,000 บาท รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 6,620,000,000 บาท โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้เพื่อชำระคืนหนี้ตามตั๋วเเลกเงิน และ/หรือสัญญากู้ยืเงิน และ/หรือ หุ้นกู้เละ/หรือ เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนของกลุ่มบริษัท
บริษัทฯ คาดว่ารายการ PP ดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์ภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการเข้าทำรายการ โดยกำหนดเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 ในรูปแบบการประชุมผ่านสืออิเล็กทรอนิกส (E-EGM) เพียงรูปแบบเดียวเท่านั้น ในวันที่ 24 มิถุนายน 2567
Lightnet ฟินเทคสิงคโปร์
ทั้งนี้ Lightnet เป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านการเงินที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ และมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจด้านการเงินอยู่หลายประเทศทั่วโลก โดยเน้นการให้บริการเครีอข่ายการชำระเงินและโอนเงินระหว่างประเทศ โดยมีนายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ และนายตฤบดี อรุณานนท์ชัย ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 69.54 และร้อยละ 12.09 ตามลำดับ
ส่วนนายอานนท์ชัย เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ โดย ณ วันที่ 29 มีนาคม 2567 ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 8.10 ของหุ้นทั้งหมดที่ออกและจำหน่ายเล้วของบริษัทฯ และมิได้มีความสัมพันธ์อื่นใดกับบริษัทฯ หรือเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน ส่วน Hiwell เป็นบริษัทลงทุนต่างประเทศจาก Republic of Seychelles โดยมี Lok Teng Teng Dorothy นักธุรกิจชาวสิงคโปร์เป็นกรรมการและเป็นผู้มีอำนาจควบคุมเบ็ดเสร็จและมิได้มีความสัมพันธ์อื่นใดกับบริษัทฯ หรือเป็นบุคคลทีเกี่ยวโยงกัน
ราคาหุ้น SABUY ปิดพุ่ง 22.52% ยืน 2.72 บาท
ความเคลื่อนไหวหุ้น SABUY ปิดการซื้อขายวันนี้ ( 10 เม.ย.67) ราคาปรับขึ้น 22.52% หรือบวก 0.50 บาท มาอยู่ที่ 2.72 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขายทะลุ 1,550 ล้านบาท
โดยราคาเปิดที่ 2.20 บาท และปรับสูงสุดระหว่างวันที่ 2.82 บาท ต่ำสุดที่ 2.16 บาท