จากกรณี ( 21 พ.ค.67 ) กลุ่มผู้เสียหายหุ้นกู้ บริษัทสตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK กว่า 50 คน เดินทางมายื่นหนังสือถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หลังทราบว่า นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ผู้ต้องหาในคดีหุ้นกู้สตาร์ค ถูกส่งตัวจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ไปรักษาตัวที่ชั้น 14 ห้องพิเศษ โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อรักษาตัวจากอาการป่วย
โดยกลุ่มผู้เสียหาย ตั้งข้อสงสัยที่นายวนรัชต์ ได้ใช้สิทธิพิเศษหรือจงใจหลีกเลี่ยงการถูกคุมขังในเรือนจำหรือไม่ เนื่องจากศาลไม่ให้ประกันตัวระหว่างต่อสู้คดีตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา โดยอ้างอาการเจ็บป่วยเข้ารักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เป็นเวลากว่า 3 เดือน
กระทั่งนายสมบูรณ์ ม่วงก่ำ ที่ปรึกษารมว.ยุติธรรม ตัวแทนกรมราชทัณฑ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ตั้งโต๊ะชี้แจงประเด็นดังกล่าว
นายพงศ์ภัค อารียาภินันท์ รักษาการผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ชี้แจงว่า ตั้งแต่ผู้ต้องหาถูกส่งเข้าเรือนจำ เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ต่อมาทางกรมราชทัณฑ์ได้ส่งตัวเข้ารักษา เมื่อวันที่ 13 ก.พ. หลังตรวจพบว่าเป็นผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง 608 เมื่อตรวจสอบพบว่าเคยมีประวัติการฉีดสีตรวจหาโรคหัวใจจากโรงพยาบาลเอกชน และประวัติการรักษาโรคซึมเศร้า ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ที่เขื่อได้ว่ามีอาการป่วยจริง จึงรับเข้ารักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์
ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ก.พ. ผู้ต้องหาได้ปรึกษาอาการเกี่ยวกับปัญหาทางเดินปัสสาวะ ก่อนตรวจพบก้อนเนื้อขนาด 5 เซนติเมตร คาดว่ามีอาการติดเชื้อ จึงให้กินยาฆ่าเชื้อจนผู้ต้องหามีอาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ภายหลังแพทย์ยืนยันว่า ผลการตรวจสอบพบว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นโรคมะเร็ง แพทย์จึงมีความเห็นควรให้ได้รับการผ่าตัดอัณฑะข้างซ้ายทันที ทางกรมราชทัณฑ์ จึงประสานส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี แต่ไม่มีคิวผ่าตัดในระยะเวลา 1 เดือน จึงประสานกับทางโรงพยาบาลตำรวจ ก่อนได้คิวการรักษา และได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจในวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา
ส่วนกรณี การเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจเกือบ 1 เดือน ซึ่งจะครบกำหนดตามสิทธิการรักษาภายใน 30 คือวันที่ 23 พ.ค.นี้ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า การส่งตัวผู้ต้องหากลับเป็นดุลยพินิจของแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์จะทำหนังสือสอบถามไปยังโรงพยาบาลตำรวจ ให้รายการผลการรักษา และกำหนดวันส่งตัวกลับ แต่ยังไม่สามารถระบุวันได้ อย่างไรก็ดีทราบมาว่าล่าสุด ได้รับการผ่าตัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา
สรุปไทม์ไลน์ การนำตัวนายวนรัชต์ จากเรือนจำสู่การนำตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาล ช่วง 3 เดือนกว่า ดังนี้
โดยหลังจากนี้ ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายกล่าวว่า จะติดตามผลการดำเนินการของกรมราชทัณฑ์ ว่าจะสามารถติดตามผู้ต้องหากลับเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้หรือไม่ เนื่องจากข้อกำหนดของกรมราชทัณฑ์ได้ระบุชัดเจนว่า สามารถรักษาจากโรงพยาบาลภายนอกได้เพียง 30 วัน อีกทั้งโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีเครื่องมือที่จะรักษาผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าวได้ ซึ่งหากยังไม่คืบหน้า กลุ่มผู้เสียหายจะรวมตัวไปร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
ด้านความคืบหน้าทางคดี ตัวจากแทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รายงานว่า ล่าสุดสามารถยึดทรัพย์ได้เพิ่มเติมมากกว่า 100 ล้านบาท โดยได้ประสานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยตลอดเวลา เพื่อเฉลี่ยทรัพย์คืนให้กับผู้เสียหายทุกคน ส่วนบริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด (PDITL) บริษัทย่อยของบริษัทสตาร์คฯ ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ ก็มีความพยายามนำทรัพย์สินมาเฉลี่ยคืนให้กับผู้ต้องหาบางส่วนได้เช่นกัน
คดีหุ้น บริษัทสตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 14,778 ล้านบาท โดยมีผู้เสียหายทั้งสิ้น 4,704 ราย โดยนายวนรัชต์ อดีตผู้บริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ตกเป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ มาตรา 281/2 วรรคสอง ประกอบมาตรา 89/7 และมาตรา 89/24 มาตรา 306 มาตรา 312 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 มาตรา 91 มาตรา 343