OR ทุ่มงบ 2.3 หมื่นล้าน รุกธุรกิจไลฟ์สไตล์-สุขภาพและความงาม

23 พ.ค. 2567 | 05:45 น.
อัปเดตล่าสุด :23 พ.ค. 2567 | 06:07 น.

OR ทุ่มงบ 2.3 หมื่นล้าน รุกธุรกิจไลฟ์สไตล์-สุขภาพและความงามในคอมมูนิตี้รอบเมือง พร้อมขยายสาขาสถานีบริการน้ำมัน ประเมินไตรมาส 2/67 ปริมาณขายน้ำมันขยายตัวดีต่อเนื่อง

นางสาวปิติรัตน์ รัตนโชติ ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยแผนการลงทุนในปี 2567 ว่า บริษัทเตรียมงบประมาณไว้ที่ระดับ 23,000 ล้านบาท เพื่อใช้รองรับการขยายธุรกิจไลฟ์สไตล์ ซึ่งในปัจจุบันบริษัทมีดีลที่อยู่ระหว่างเจรจาและตรวจสอบวิเคราะห์สถานะทางธุรกิจ (Due Diligence) อยู่ในมือหลายราย

นอกจากนี้ จะใช้เงินลงทุนบางส่วนรองรับในการขยายสถานีบริการน้ำมันในปีนี้ อีกประมาณ 100 แห่ง รวมถึงสาขาร้านคาเฟ่ อเมซอน 350 สาขา

อย่างไรก็ดี บริษัทมองว่าธุรกิจไลฟ์สไตล์ในปีนี้จะยังคงความสามารถในการรักษาระดับการทำกำไรไว้ที่ระดับสูงได้ต่อ

สำหรับการขยายธุรกิจสุขภาพและความงาม ปี 2567 บริษัทคาดเปิดร้านแห่งแรกได้ในไตรมาส 3/2567 ในพื้นที่ กทม. และคาดว่าอาจมีอีกประมาณ 2-3 ร้านค้า ที่จะเปิดภายในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยจะมุ่งเน้นเปิดสาขาในคอมมูนิตี้รอบเมือง

ส่วนธุรกิจน้ำมัน จากสถานะการณ์การท่องเที่ยวที่มีการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปลายปี 2566 มาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้มองว่าความต้องการเดินทางยังคงมีทิศทางการขยายตัวที่เพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่าในช่วงไตรมาส 2/2567 ปริมาณขายน้ำมันในประเทศจะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน

ประกอบกับจากการคาดกาณ์ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยในปี 2567 ที่คาดว่าจะมีจำนวน 35 ล้านคน ซึ่งในไตรมาสแรกตัวเลขออกมาได้ค่อนข้างดี มองว่านอกจากส่งผลเชิงบวกต่อปริมาณขายน้ำมันสำหรับการคมนาคมทางบกแล้ว ยังสะท้อนต่อความต้องการใช้น้ำมันอากาศยานให้มีการเติบโตที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยจะรักษาค่าการตลาดน้ำมัน (marketing margin) ในกรอบที่เหมาะสมประมาณ 0.70-1.20 บาทต่อลิตร

ทั้งนี้ บริษัทคาดการณ์ว่าปริมาณการขายน้ำมันจะมีการเติบโตที่ดีได้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับการขยายตัวของตัวเลขทางเศรษฐกิจ (GDP Growth) ที่ปี 2567 คาดว่าจะอยู่ที่ราว 2-3% ซึ่งปัจจัยสนับสนุนหลักๆ เป็นผลมาจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว และหากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระทบต่อการท่องเที่ยวที่รุนแรงเหมือนช่วงเกิดโรคระบาด ก็คาดว่าปริมาณขายน้ำมันอากาศยานจะเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่องในปี 2568 ด้วยเช่นเดียวกัน

โดยบริษัทประเมินแนวโน้มราคาน้ำมันปี 2567 อาจยังคงมีความผันผวนอยู่ในกรอบที่ระดับราคา 80-85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งและการเกิดสงครามที่ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ของกลุ่มตะวันออกกลาง รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่ยังเปลี่ยนแปลง ทำให้ราคาน้ำมันในปีนี้ และอาจขยับตัวขึ้นไปแตะที่ระดับ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ในบางช่วง