ปูนซีเมนต์ไทย แจ้งงวด 6 เดือน กำไรสุทธิวูบ 75.08%

25 ก.ค. 2567 | 11:24 น.
อัพเดตล่าสุด :25 ก.ค. 2567 | 11:24 น.

SCC รายงานผลประกอบการงวดครึ่งปี 67 พบกำไรสุทธิ 6,132.79 ล้านบาทลดลง 18,475.19 ล้านบาทหรือ 75.08% พร้อมปรับเป้ารายได้ใหม่เหลือเติบโตเพียง 10% จากเดิม 20%

บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC รายงานผลประกอบการ ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 พบว่า มีกำไรสุทธิ 3,707.93 ล้านบาท ลดลง 4,374.31 ล้านบาท หรือ ลดลง 54.12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8,082.24 ล้านบาท เมื่อรวมงวด 6 เดือนปี 2567 มีกำไรสุทธิ 6,132.79 ล้านบาทลดลง 18,475.19 ล้านบาทหรือ 75.08% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/67 แม้จะปรับตัวลดลงมากจากช่วงเดียวกนของปีก่อน แต่ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นของบริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด(มหาชน) หรือ SCGC กำลังซื้อในตลาดอาเซียนดีขึ้น โดยเฉพาะเวียดนามและอินโดนีเซีย

นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน)

 

รวมทั้งมีรายได้เงินปันผลรับจากการลงทุนในธุรกิจอื่น ส่งผลให้ SCC มีรายได้ 128,195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อน กำไรสำหรับงวด 3,708 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% จากไตรมาสก่อน

ขณะที่ครึ่งแรกของปี 67 มีรายได้ 252,461 ล้านบาทใกล้เคียงกับปีก่อน โดยมีสัดส่วนยอดขายจาก SCGC 39% บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP 27% เอสซีจี ซีเมนต์ แอนด์ กรีนโซลูชัน 16% เอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง และ เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น แอนด์ รีเทล 13% และ บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด(มหาชน) หรือ SCGD 5%

“บริษัทได้รับผลกระทบจากวัฏจักรปิโตรเคมีโลกยังอยู่ในช่วงขาลง ความตึงเครียดจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ตลาดแข่งขันสูงจากสินค้านำเข้าจากจีน เศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวช้าจากกำลังซื้อที่อ่อนแอในกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง-น้อย เราจึง เร่งเพิ่มความฟิตทางธุรกิจ สร้างความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน”นายธรรมศักดิ์กล่าว

ดังนั้นบริษัทจึงปรับเป้าหมายการเติบโตของรายได้ปี 2567 เหลือ 10% จากเดิมที่คาดว่าโต 20% จากปีก่อน เนื่องจากโครงการ ลองเชิน ปิโตรเคมิคอลส์ (Long Son Petrochenicals - LSP) เลื่อนเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) จากไตรมาส 3/67 ไปเป็นไตรมาส 4/67 ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังที่ยังไม่ดีเหมือนที่คาดการณ์ รวมทั้งยังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น

"เศรษฐกิจตอนนี้ต้องระวัง ทั้งเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่รุนแรง กระทบไทยด้วย ตอนนี้สินค้าราคาถูกต่าง ๆ เข้ามาในตลาดเราจำนวนมาก รวมทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือน กำลังซื้อกลุ่มกลางถึงล่างลดลง บริษัทจึงต้องปรับตัวเองแก้ปัญหาให้ตอบโจทย์"นายธรรมศักดิ์กล่าว 

ประกอบกับธุรกิจของ SCGC ที่อ่อนตัวตามดีมานด์ที่ลดลง สวนทางกับกำลังการผลิตใหม่เข้ามากขึ้นจากจีน ซึ่งในอดีตเป็นผู้นำเข้าปิโตรเคมีขนาดใหญ่ ส่งผลให้เกิด Oversupply ในตลาด คาดว่าช่วงครึ่งหลังปี ธุรกิจเคมีจะยังทรงตัว โดยเฉพาะในไตรมาส 3/67 ที่จะมีกำลังการผลิตจากจีนเข้ามาจำนวนมาก ประกอบกับ ต้นทุนราคาน้ำมันไม่ลดลงจากความไม่แน่นอนในตลาดโลก กดดันการดำเนินงาน อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวังมากขึ้น 

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงแผนเสนอขายหุ้นกู้ล็อตใหม่มูลค่า 30,000 ล้านบาท อันดับเครดิต A ในเดือน ต.ค. วัตถุประสงค์เพื่อชำระหนี้หุ้นกู้ชุดเดิมที่จะครบกำหนดในเดือน พ.ย. มูลค่า 25,000 ล้านบาท และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

"ภาพรวมเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง ยังมีความท้าทายต่อเนื่อง แต่ SCC พร้อมรับมือด้วยความคล่องตัวและมั่นคง มีเงินสดและเงินสดภายใต้การบริหาร 78,907 ล้านบาท รวมทั้งนวัตกรรมโซลูชั่นตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าครบวงจร ขณะที่ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทใช้งบลงทุนไป 1.7-1.8 หมื่นล้านบาท จากงบลงทุนปี 67 ที่ตั้งไว้ที่ 4 หมื่นล้านบาท"นายธรรมศักดิ์กล่าว