แนวโน้มการบริโภคในประเทศที่เพิ่มขึ้นและการจับจ่ายใช้สอยเริ่มกลับมาขยายตัว รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาไทยังที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่มีการเปิดประเทศให้มีการเดินทางระหว่างประเทศ คาดว่าสิ้นปี 2567 มีโอกาสที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 35 ล้านคน
ประกอบกับจากการกลับมาจัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ รวมถึงจัดอีเวนท์ตามเทศกาลต่างๆ ซึ่งในปี 2567 คนให้การตอบรับค่อนข้างดี อย่างช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ ในปีนี้อาจเป็นปีทองของกลุ่มหุ้นอาหารและหุ้นที่เกี่ยวเนื่องกับการบริโภค
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ รองกรรมการณผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า บริษัทฯ ค่อนข้างมีมุมมองในเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มอาหาร จากแนวโน้มการบริโภคภายในประเทศที่มีการเติบโตที่ดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน อีกทั้งราคาเนื้อหมูและเนื้อไก่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น
ส่งผลทำให้คาดว่า อัตราการเติบโตของผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 และทั้งปี 2567 จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีกำไรสุทธิที่แข็งแกร่ง โดยทางฝ่ายชอบ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG และ บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT เนื่องจากไม่มีปัญหาเรื่องหมูที่มาจากต่างประเทศเข้ามากดดัน
บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ทางฝ่ายคงน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มที่เกี่ยวกับเนื้อสัตว์สำหรับเดือน ส.ค. ที่ "เท่าตลาด" เช่นเดิม โดยมีปัจจัยบวกจากผลประกอบการในไตรมาส 2/2567 ที่คาดว่าจะออกมาดี ตามราคาเนื้อสัตว์โดยเฉลี่ยที่ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน รวมถึงแนวโน้มในช่วงไตรมาส 3/2567 ที่คาดว่าจะยังดีอยู่จากการเป็นช่วง High Season ของการส่งออก
ราคาเนื้อสัตว์ในประเทศเดือน ก.ค. สุกร กลับมายืน 70 บาท/กก. ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย 3% จากเดือนก่อน และเติบโต 2% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน นับว่าเป็นการเติบโตครั้งแรก ส่วนราคาไก่อยู่ที่ 44 บาท/กก. ลดลง 2% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน แต่ยังยืนได้เท่าเดิมเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน แต่เทียบกับปีก่อนลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา
ต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ในเดือน ก.ค.
ขณะที่ราคาเนื้อสัตว์ในต่างประเทศที่เวียดนามเริ่มนิ่ง ส่วนจีนปรับขึ้นต่อ
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคาเนื้อสัตว์ในประเทศเดือน ส.ค. ต้องติดตามผลกระทบจากการเข้าสู่ฤดูฝน แต่มีปัจจัยบวกจากการเปิดภาคการศึกษาของระดับอุมศึกษา โดยสิ่งที่ต้องติตดามใกล้ชิดคือการรายงานผลประกอบการช่วงไตรมาส 2/2567 ที่จะเริ่มทยอยประกาศตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ส.ค. เป็นต้นไป
โดยทางฝ่ายคาดว่าจะเห็นการเติบโตได้ต่อเนื่องตามราคาเนื้อสัตว์ในประเทศ ดังนั้น ทางฝ่ายจึงคงน้ำหนักการลงทุนที่เท่าตลาด เช่นเดิม ส่วนหุ้นแนะนำเลือก CPF เป็น Top Picks เพราะได้รับผลดีจากราคาเนื้อสุกรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกๆ ประเทศ ทั้งที่ไทย เวียดนาม และจีน