ตลาดหุ้นไทย 2-6 ก.ย. ลุ้นรัฐบาลอุ๊งอิ๊งเข็นนโยบายใหม่ ดัชนี 1,350-1,380 จุด

30 ส.ค. 2567 | 07:30 น.
อัพเดตล่าสุด :30 ส.ค. 2567 | 07:31 น.

โบรกมองดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าหน้า 2-6 ก.ย.67 อยู่ในกรอบ 1,350-1,380 จุด จับตาการฟอร์มทีมรัฐบาลชุดใหม่ เข็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ-การลงทุน ขับเคลื่อนประเทศ

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ รองกรรมการณผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ 30 ส.ค.2567 แกว่งตัวบวกลบในกรอบแคบๆ เนื่องจากรอปัจจัยใหม่เข้ามาหนุนตลาด

โดยเฉพาะประเด็นทางการเมืองไทยที่อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการฟอร์มรัฐบาลชุดใหม่ และนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฯในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ เมื่อมีการโปรดเกล้าแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี จะนำคณะรัฐมนตรีเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนปฎิบัติหน้าที่ หลังจากนั้นจะมีการประชุม ครม.นัดพิเศษ เพื่อเสนอร่างนโยบาย ต่อคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ

พร้อมกับการกำหนดวันแห่งนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฎร ในลำดับถัดไปก็จะมีการส่งเล่มคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภารับทราบ เป็นต้น ที่ทำให้ตลาดรู้ว่าจะมีนโยบายอะไรบ้างที่รัฐบาลชุดใหม่จะเข็นออกมากระตุ้นเศรษฐกิจและเดินหน้าลงทุนได้ก่อน ซึ่งก็ต้องจับตารอดูความชัดเจนในสัปดาห์หน้า (2-6 ก.ย. 2567)

ซึ่งคาดจะบวกต่อกลุ่มค้าปลีก, รับเหมา, สื่อสารขนาดกลาง-เล็ก ได้แก่ CPALL, TNP, CPAXT, CBG, OSP, CK, STEC, SYNEX, SIS, SAMART, ITEL เป็นต้น

รวมถึงหุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย อาทิ

  1. กลุ่มการเงิน
  2. โรงไฟฟ้า
  3. กลุ่มกองทุน REITs

อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายประเมินกรอบดัชนีในสัปดาห์หน้าไว้ที่ 1,350-1,380 จุด

สำหรับการลงทุนในวันนี้ 30 ส.ค.2567 อาจต้องระมัดระวังความผันผวน เนื่องจากช่วงปลายตลาดจะมีการปรับดัชนี MSCI Rebalancing และการถูกลดน้ำหนักของหุ้นหลายตัว อาทิ

  • AWC (- 95 ล้านเหรียญฯ)
  • GPSC(-90 ล้านเหรียญฯ)
  • IVL ( -90 ล้านเหรียญฯ)
  • EA(- 35 ล้านเหรียญฯ)

คาดส่งผลต่อบรรยากาศลงทุนและความผันผวนของตลาดหุ้นในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งการปรับพอร์ตรอบนี้คาดมีเม็ดเงินไหลออกไปประมาณ 330 ล้านเหรียญ มองว่าอาจเป็นแรงที่เข้ามากดดันระยะสั้นต่อ SET Index ได้

หากมองภาพรวมการเคลื่อนไหวของหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้หุ้นรายตัวปรับขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งบ่งชี้ว่าการหมุนกลุ่ม/สลับกลุ่มไปยังหุ้นอื่นๆ นอกกลุ่มเทคโนโลยี กำลังทยอยเกิดขึ้น คาดว่าเกิดจาก GDP สหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งกว่าคาด โดยการรายงาน GDP ไตรมาส 2/2567 รอบใหม่ ถูกปรับขึ้นเป็น +3.0% (จากเดิม +2.8%)

โดยหลักมาจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ที่ปรับเป็น +2.9% จากเดิมที่ +2.3% ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดว่าตัวเลขดังกล่าวอาจจะลดลง ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวช่วยลดความกังวลต่อการเกิดเศรษฐกิจถดถอยในระยะเวลาอันใกล้ และจะเป็นผลบวกต่อบรรยากาศลงทุนโดยรวมในวันนี้

ประเด็นที่น่าสนใจ

  • คมนาคม ลุยตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานซื้อสัมปทานรถไฟฟ้าตั๋ว 20 บาทตลอดสาย
  • สัปดาห์หน้า (2-6 ก.ย.67) BCPG OR BSRC BCP BA KKP RATCH ONEE LANNA ขึ้น XD
  • Top 5 หุ้นที่รอการ short covering อาทิ HANA-R, TOP-R, TISCO, SPRC-R, BEM-R
  • แผน PDP ฉบับใหม่ คลอด ต.ค. สัดส่วนไฟทดแทน 51%