ตลาดหุ้นไทยสุดต้าน ปิดตลาดแดนลบ 1,461.58 จุด รอปัจจัยใหม่หนุน

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ 25 ก.ย.67 ปิดตลาดที่ระดับ 1,461.58 จุด ลดลง 0.52 จุด เปลี่ยนแปลง 0.04% ระหว่างวันดัชนีดีดตัวขึ้นทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,471.69 จุด และย่อตัวลงทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,460.23 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 62,588.09 ล้านบาท

มูลค่าการซื้อขายตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ และนักลงทุนต่างประเทศ มีสถานะขายสุทธิที่ระดับ 59.19 ล้านบาท และ 554.94 ล้านบาท ในขณะที่สถาบันในประเทศและนักลงทุนในประเทศ มีสถานะซื้อสุทธิที่ระดับ 374.98 ล้านบาท และ 239.15 ล้านบาท ตามลำดับ

5 หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด

• BANPU ราคา 7.05 บาท ลดลง 0.35 บาท เปลี่ยนแปลง 4.73% มูลค่าการซื้อขาย 3,036.24 ล้านบาท
• SCC ราคา 246.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท เปลี่ยนแปลง 2.93% มูลค่าการซื้อขาย 2,588.56 ล้านบาท
• CPALL ราคา 66.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท เปลี่ยนแปลง 0.30% มูลค่าการซื้อขาย 2,382.59 ล้านบาท
• PTTEP ราคา 140.00 บาท ลดลง 0.50 บาท เปลี่ยนแปลง 0.36% มูลค่าการซื้อขาย 2,045.61 ล้านบาท
• PTTGC ราคา 31.75 บาท โดยราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 1,850.80 ล้านบาท

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เผยมุมมองต่อตลาดหุ้นไทยว่า ยังคงมองว่าตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปี 2567 ยังคงอยู่ในทิศทางที่ดี โดยประเมินกรอบดัชนีแนวต้านไว้ที่ระดับ 1,510 จุด

ปัจจัยหลักๆ มาจาก การเฝ้าสังเกตกระแสเงินลงทุนต่างชาติในช่วงที่ผ่านมา นับตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย. 2567 ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มองว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่ช่วยสะท้อนว่าจากนี้จะริ่มเห็นการกลับมาของฟันด์โฟลว์ได้อีกครั้งแล้ว หลังจากที่ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้กระแสเงินลงุนต่างชาติไหลออกไปมาก มูลค่ารวมกว่า 9 หมื่นล้านบาท

มองว่าการเคลื่อนไหวของดัชนีในกรอบแคบๆ วันนี้ เนื่องจากรอปัจจัยใหม่เข้ามาช่วยหนุน เชื่อว่าจากการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลชุดใหม่อย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทั้งโครงการดิจิทัลวอลเลต แจกเงิน การมาของกองทุน Thai ESG และกองทุนรวมวายุภักษ์ เป็นต้น

ทั้งนี้ ประเมินกรอบดัชนีระยะสั้นไว้ที่ระดับ 1,452 จุด และกรอบดัชนีแนวต้านที่ระดับ 1,475 จุด