ในภาวะที่ตลาดหุ้นไทยยังมีความผันผวนหนักต่อเนื่อง ทำให้ในการเลือกลงทุนในหุ้นอาจจะมีความเสี่ยงหากเล่นไปตามกระแสหรือสถานการณ์ ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นไทยหลายบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงจากการลงทุนซื้อความหวังในอนาคตไปมากแล้ว และมีความเสี่ยงที่ราคาหุ้นอาจลดลงหากความหวังที่วางไว้ไม่เป็นไปตามคาดการณ์
แต่ก็ใช่ว่าจะไร้สิ้นทางออกไปเสียทีเดียว เพราะทางเลือกของการลงทุนยังมีอยู่ การกระจายความเสี่ยงของพอร์ตไปลงทุนในหุ้นระยะกลางถึงยาว อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยได้ โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นที่มีการจ่าย "เงินปันผล" ที่สูงยังเป็นที่น่าสนใจ และดูเหมือนว่าจะกลับมาอยู่ในโฟกัสของนักลงทุนอีกครั้งหนึ่ง
จากการรวบรวมสถิติการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) นับตั้งแต่ต้นปี 2567 จนถึงปัจจุบัน สูงสุด 10 อันดับแรก พบว่า มีการจ่ายปันผลสูงสุดที่ระดับ 29.85 บาท/หุ้น และจ่ายปันผลน้อยที่สุดที่ระดับ 8.50 บาท/หุ้น แยกได้ดังนี้
บริษัท กันยงอีเลคทริก จำกัด (มหาชน) หรือ KYE
บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ STANLY
บริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BKIH
บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC
บริษัท กรุงเทพโสภณ จำกัด (มหาชน) หรือ KWC
บริษัท มูราโมโต้ อีเล็คตรอน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ METCO
บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC
บริษัท ฟาร์อีสท์ เฟมไลน์ ดีดีบี จำกัด (มหาชน) หรือ FE