นายเชฎฐพล ดุษฎีโหนด รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ FM เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 68 บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมไว้แบบอนุรักษ์นิยมที่ไม่น้อยกว่า 10-15% จากปีก่อน ปัจจัยสนับสนุนหลักๆ เป็นผลมาจากการขยายตลาดต่างประเทศใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
โดยบริษัทมีความสนใจที่จะขยายตลาดกลุ่มเอเชีย เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และ ฟิลิปปินส์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และยุโรป เป็นหลัก ซึ่งยังคงเป็นกลุ่มเดิมที่มีการส่งออกอยู่แล้ว ทำให้บริษัทมีโอกาสรับคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหม่เข้ามาเพิ่ม ด้วยมองว่าความต้องการบริโภคเนื้อไก่ทั้งในและต่างประเทศยังคงมีอยู่อีกมาก
ซึ่งจากสถิติข้อมูลการส่งออกผลิตภัณฑ์ไก่ไทยในช่วง 3-4 ปีย้อนหลัง พบว่ามีอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ราว 2-4% ต่อปี โดยคาดว่าในปีหน้าการเติบโตจะยังคงใกล้เคียงเดิมหรือปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะเห็นการขยายตัวของสัดส่วนการส่งออกอยู่ที่กว่า 50% ของรายได้รวม ใกล้เคียงกับรายได้จากในประเทศ
"ด้วยปัจจัยต้นทุนพลังงานและแรงงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มยุโรป และเกาหลี ที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้โรงเลี้ยงไก่ในประเทศเหล่านั้นหลายรายประสบปัญหาต้นทนผลิตไที่สูงขึ้นและทยอยปิดตัวลง ทำให้ไก่ในประเทศมีไม่เพียงพอต่อการบริโภค ส่งผลให้ต้องมีการนำเข้าเนื้อไก่ดิบและเนื้อไก่แปรรูปที่เพิ่มขึ้น ซึ่งก็เป็นโอกาสให้กับ FM ที่จะได้รับออเดอร์ใหม่เข้ามาเพิ่ม"
นอกจากนี้ หลังจากที่ได้เงินจากการระดมทุนมาแล้ว บริษัทวางแผนจะนำไปใช้ในการจัดซื้อเครื่อจักรขยายกำลังการผลิตของโรงงานแปรรูปไก่ปรุงสุก (CAV Products) ให้เพิ่มขึ้นอีก 10-15% หรือเป็นกว่า 30,000 ตันต่อปี จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตเต็มสายงานอยู่ที่เฉลี่ยราว 27,000 ตันต่อปี
ปัจจุบันมีการทำเรื่องจัดซื้อเครื่องจักรชุดใหม่แล้ว คาดว่าจะสามารถทยอยติดตั้งเครื่องจักรและพร้อมเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในช่วงไตรมา 3/68 เป็นต้นไป โดยมูลค่าการลงทุนในส่วนนี้บริษัทวางไว้ที่ราว 250 ล้านบาท จากงบลงทุนทั้งปี 68 ที่วางไว้ประมาณ 500 ล้านบาท
ขณะเดียวกันบริษัทยังมีความสนใจในการลงทุนธุรกิจใหม่ๆ ที่สามารถต่อยอดธุรกิจหลักได้เพิ่มเติมด้วย ปัจจุบันมีที่อยู่ระหว่างการทำ Due Diligence จำนวน 1 ดีล เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) ที่จะเข้ามาช่วยสร้าง New Growth ให้กับธุรกิจและผลการดำเนินงาน เบื้องต้นคาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนอย่างเร็วที่สุดในไตรมาส 1/68 นี้
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/67 ในแง่ของปริมาณการจำหน่ายมีการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แรงขับเคลื่อนเป็นผลมาจากการลงทุนขยายกำลังการผลิตไก่แปรรูปปรุงสุก (CAV) ที่ COD ไปเมื่อปลายไตรมาส 2/67 ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันมีกำลังผลิตเพิ่มเป็น 22,000-23,000 หมื่นตันต่อปี จากเดิมที่มีกำลังผลิตไก่แปรรูปปรุงสุกเพียง 17,000-18,000 หมื่นตันต่อปี
และแม้จะมีการขยายกำลังการผลิตใหม่เพิ่มขึ้นมาแล้ว แต่ด้วยความต้องการที่ยังขยายตัวดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ขณะนี้อัตราการใช้กำลังผลิตอยู่ในระดับสูงที่กว่า 80-85% ของกำลังการผลิตไก่แปรรูปปรุงสุกทั้งหมดที่มี นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าในไตรมาส 4/67 จะสามารถ COD กำลังผลิตใหม่ในส่วนเนื้อไก่ดิบเข้ามาเพิ่มอีกด้วย
ทำให้เชื่อว่าในไตรมาส 4/67 ผลการดำเนินงานจะยังคงมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี แม้ว่ายอดขายจะขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังมีความเสี่ยงในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งในส่วนนี้บริษัทได้มีการทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward) รวมถึงเจรจาในเรื่องของราคากับทางคู่ค้าไว้เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีความมั่นใจว่าการเติบโตของรายได้รวมในปี 67 จะทำได้ดีตามเป้าหมายที่วางไว้ ไม่น้อยกว่า 20-25% หรือแตะ 6,900-7,000 ล้านบาท จากปีก่อน ที่ทำได้ 5,791.00 ล้านาท ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้บริษัทมีรายได้รวมแล้วที่ 3,646.29 ล้านบาท ในขณะที่อัตรากำไรสุทธิในปีนี้จะยังคงอยู่ในระดับ 2 หลัก (2 digit) ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกที่ 10.16%
"การเข้ามาระดมทุนของ FM ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการขยายตลาด ซึ่งมองว่ายังมีโอกาสอีกมากที่จะส่งออกไปยังต่างประเทศ ไทยค่อนข้างได้เปรียบในเรื่องของต้นทุนที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับต่างประเทศ อีกทั้งด้วยนวัตกรรมในการสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของเรา ยังทำให้เป็นที่สนใจของลูกค้าต่างชาติได้เพิ่ม ทำให้เรามีโอกาสจะได้รับออเดอร์ใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง"