SET Index แกว่ง Sideways กรอบ 1,450-1,470 จุด จับตา กนง. คงดอกเบี้ย

16 ต.ค. 2567 | 02:46 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ต.ค. 2567 | 02:46 น.

คาด SET วันนี้ Sideways ในกรอบ 1,450-1,470 จุด ปัจจัยภายนอกมีแรงกดดันจากการย่อตัวหุ้น US Tech ปัจจัยภายในแนะเกาะติดการประชุม กนง. วันนี้ คาด “คงดอกเบี้ยที่ระดับ 2.5%” ตามเดิม กลยุทธ์เน้นทยอยสะสมหุ้นแนวโน้มกำไรดีวันนี้ แนะนำ AAV

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) ประเมินภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้ 16 ต.ค.67 ว่า คาด SET Index แกว่งตัวแบบ Sideways ในกรอบ 1,450-1,470 จุด โดยวันนี้แนะจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)

โดยทางฝ่ายคาดว่า ทางกนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่ระดับ 2.5% ตามเดิม แม้ว่าจะมีแรงกดดันให้ กนง. ลดดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างมากจากหลายภาคส่วน แต่คาดว่า กนง. อาจจะรอดูการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอีกระยะหนึ่งก่อน เนื่องจากระยะหลังภาครัฐฯ ได้พยายามออกมาตรการทางการคลังในการฟื้นเศรษฐกิจ

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าติดตาม คือ คะแนนเสียงของคณะกรรมการ กนง. ทั้ง 7 ท่าน ว่าจะออกมาในรูปแบบได้ โดยรอบก่อนเสียงข้างมาก 6 ท่าน มองการคงดอกเบี้ย ขณะที่มี 1 เสียงที่ให้น้ำหนักต่อการลดดอกเบี้ย ซึ่งรอบนี้คงต้องจับตาดูว่าเสียงทั้งหมดจะแตกต่างจากรอบก่อนอย่างไรบ้าง ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ตลาดตีความการประชุมนัดส่งท้ายของปีในเดือน ธ.ค.นี้

ส่วนปัจจัยอื่นๆ ในช่วงนี้ ยังคงเน้นการติดตามการทยอยรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3/67 ซึ่งอาจส่งผลให้หุ้นรายตัวมีความผันผวนมากขึ้นได้ โดยกลยุทธ์ยังคงแนะตั้งรับหุ้นที่คาดกำไรดี ขณะที่หุ้นบางตัวกำไรไตรมาส 3/67 อาจอ่อนแอ แต่จะฟื้นในช่วงถัดไป ก็อาจรอจังหวะซื้อหลังงบออก (Buy on fact)

ส่วนปัจจัยที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ยังมีการประชุม ECB ในวันพฤหัส และรายงานไตรมาส 3/67 GDP ของจีน ในวันศุกร์นี้  

หุ้นเด่นแนะนำ

  • AAV ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 2.80 บาท คาดการท่องเที่ยวไทยยังเติบโตต่อเนื่อง โดยสภาพัฒน์ฯ ประเมินนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ที่ระดับ 36.5 ล้านคน ซึ่งน่าจะถึงเป้าหมายได้ไม่ยาก ผสานโอกาสที่รัฐฯกำลังหารือโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งจะเป็น Upside ส่วนเพิ่มในช่วงถัดไป ขณะที่ราคาน้ำมันเมื่อคืนย่อตัวผ่อนคลายประเด็นอิสราเอล อาจจะไม่ยิงแหล่งผลิตน้ำมันในอิหร่าน ซึ่งเป็นจิตวิทยาบวกต่อกลุ่มขนส่ง
  • SGC ราคาเป้าหมาย 1.96 บาท คาดกำไรครึ่งหลังปี 67 จะเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการเติบโตของโครงการ SG Finance+ ซึ่งเป็นการปล่อยสินเชื่อมือถือที่สามารถล็อกได้หากผิดนัดชำระหนี้ ที่จะทำให้ NPL Ratio อยู่ในระดับต่ำ ผสานกับการปลดล็อกการเพิ่มทุน จะหนุนให้ SGC ผ่อนคลายดอกเบี้ยจ่าย และมีเม็ดเงินเพิ่มเติมในการปล่อยสินเชื่อ หนุนปี 68 กำไรจะเติบโตแบบก้าวกระโดด 
  • BH คาดกำไรไตรมาส 3/67 ยังคงเติบโตโดดเด่น จากการเข้าสู่ช่วง High Season โดยคาดผู้ป่วยจากตะวันออกกลางยังปรับตัวขึ้นดี ขณะที่ประเด็นของคูเวต คาด BH มีโอกาสถูกเลือกเป็น 1 ใน 3 โรงพยาบาลในไทยที่รัฐบาลคูเวตสนับสนุน ภาพระยะกลาง คาดได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการเปิดโรงพยาบาลแห่งใหม่ในภูเก็ตในช่วงปี 69
  • AOT คาดกำไรในช่วง ก.ค.-ก.ย. 67 จะขยายตัวได้ จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน ตามรายได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ในฝั่งรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับการบินอาจลดลงเล็กน้อย จากการยกเลิกร้าน Duty Free ขาเข้าตั้งแต่ ส.ค. 67 ขณะที่ในระยะสั้นคาดมีปัจจัยบวกจาก Golden week หนุนนักท่องเที่ยวจีนสูงขึ้น และการเดินหน้าต่อในช่วงปลายปีคาดนักท่องเที่ยวจะเร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการเข้าสู่ช่วงฤดูกาล ขณะที่ Upside อาจมาจากมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐฯ

ปัจจัยที่ต้องจับตา

16 ต.ค.      การประชุม กนง.
17 ต.ค.      ยอดค้าปลีก US, ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย
                  สัปดาห์ US, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม US, 
                  การประชุม ECB, ดัชนี CPI ของยูโรโซน,
                  ยอดส่งออกญี่ปุ่น, สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์