ตลท. ยกระดับเกณฑ์ลงโทษโบรกเกอร์เข้นข้น มีผล 1 พ.ย.67 นี้

18 ต.ค. 2567 | 11:17 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ต.ค. 2567 | 11:49 น.

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยกระดับการกำกับดูแลปรับปรุงเกณฑ์บทระวางโทษปรับเป็นเงินสำหรับบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งเป็นสมาชิกให้เข้มข้นขึ้น มีผลใช้บังคับ 1 พ.ย. 67 นี้

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เพิ่มความเข้มข้นในการกำกับดูแลบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ฯ (โบรกเกอร์) ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยปรับปรุงเกณฑ์บทระวางโทษปรับเป็นเงินสำหรับโบรกเกอร์ให้สูงขึ้น

ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการยกระดับการกำกับดูแล เพื่อเพิ่มการกำกับดูแลสมาชิกที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ โดยจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป 

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้จัดกลุ่มตามลักษณะการกระทำผิดของโบรกเกอร์เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่

  1. การใช้ระบบส่งคำสั่งซื้อขาย การใช้ชุดคำสั่งคอมพิวเตอร์ สถานที่ติดตั้ง และการต่อเชื่อมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
  2. การกำกับดูแลการซื้อขายผ่านระบบของสมาชิก
  3. คุณสมบัติและหน้าที่ในการเป็นสมาชิก
  4. การซื้อขาย

นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงบทระวางโทษปรับเป็นเงินให้เหมาะสมในแต่ละกรณี โดยพิจารณาตามระดับความรุนแรงของผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการกระทำความผิดในแต่ละลักษณะการกระทำความผิด ตัวอย่างเช่น หากเป็นกรณีการกระทำความผิด Naked Short Selling จะปรับ 3 เท่าของกำไรที่ได้รับ แต่ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท (จากเดิมที่ปรับเท่ากับกำไรที่ได้รับ โดยไม่มีการกำหนดค่าปรับขั้นต่ำ)

หรือหากเป็นกรณีไม่เรียกให้ลูกค้าวางหลักประกันเพิ่ม เมื่อทรัพย์สินของลูกค้าลดลงจนต่ำกว่ามูลค่าหลักประกันที่ต้องดำรงไว้ตามเกณฑ์การซื้อขายหลักทรัพย์ประเภทมาร์จิ้น จะปรับไม่เกิน 30,000 บาทต่อครั้งที่โบรกเกอร์มีหน้าที่ต้องเรียกให้ลูกค้าวางหลักประกันเพิ่ม (จากเดิมที่ปรับไม่เกิน 10,000 บาทต่อครั้ง)

ตลท. ยกระดับเกณฑ์ลงโทษโบรกเกอร์เข้นข้น มีผล 1 พ.ย.67 นี้

ทั้งนี้ เกณฑ์ดังกล่าวได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง และผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. แล้ว