คาด SET วันนี้ “Sideways” ในกรอบ 1450-1480 จุด คาดยังอยู่ในช่วงสะสมกำลัง โดยสัปดาห์นี้ปัจจัยในประเทศแนะเกาะติดประชุม ครม. รอมาตรการกระตุ้น ขณะที่ประเด็นการเมืองจับตาศาลรัฐธรรมนูญพุธนี้ กลยุทธ์ยังมองเป็นจังหวะสะสมหุ้นพื้นฐานดี ที่แนวโน้มกำไรขยายตัว โดยสำหรับวันนี้แนะนำ “JMT”
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯตอบรับเชิงบวก จากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่โดนัล ทรัมป์ ได้รับชัยชนะ ผสานกับพรรคริพับลิกันได้ครองเสียงข้างมากทั้งในสภาสูง และสภาล่าง ซึ่งเป็นผลบวกต่อการขับเคลื่อนนโยบาย อีกทั้งการประชุม FED ก็ได้ปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% และโทนของประธาน FED ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ
สอดคล้องกับในวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯได้รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เดือน พ.ย. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 73.0 จุด มากกว่าคาดที่ 71.0 และเป็นจุดสูงสุดในรอบ 7 เดือน ตอกย้ำแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง บวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง และกระตุ้น Dollar Index แข็งค่า
ส่วนสัปดาห์นี้แนะติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ US CPI และ US PPI, ดัชนี 3Q24 GDP ของทั้งยูโรโซน และญี่ปุ่น รวมถึงยอดค้าปลีกสหรัฐฯ และจีน
สำหรับปัจจัยในประเทศ ติดตามการประชุม ครม. ในวันอังคาร อาจเห็นการเคาะนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี (เช่น อสังหาฯ) ขณะที่วันพุธ เกาะติดศาลรัฐธรรมนูญ รับ-ไม่รับ คำร้อง ประเด็นคุณทักษิณ-พรรคเพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง ซึ่งหากไม่รับคำร้อง ก็จะช่วยปลดล็อคแรงกดดันในระยะสั้นไปได้ หนุนโอกาส SET กลับไปทดสอบระดับ 1500 อีกครั้ง โดยยังใช้โอกาสย่อเป็นจังหวะทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี ที่แนวโน้มผลประกอบการขยายตัว
JMT รายงานกำไร 3Q24 ที่ 430 ล้านบาท สูงกว่าคาด 7.5% แรงหนุนจากการตั้ง ECL ที่ลดลง ขณะที่ยอดการเก็บเงินสด (Cash collection) ฟื้นตัว +7.2%q-q ตามแผนที่เร่งการฟ้องลูกหนี้มากขึ้น ฐานะการเงินยังเป็นปกติดี คือ net D/E เพียง 0.4 เท่า และล่าสุดออกหุ้นกู้ 2 ชุด วงเงิน 1.8 พันล้านบาท ไปเรียบร้อย ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงินมากยิ่งขึ้น
11 พ.ย. ดุลการค้าของญี่ปุ่น
12 พ.ย. ประชุม ครม.
13 พ.ย. ดัชนี US CPI, ดัชนี PPI ของญี่ปุ่น, ศาลรัฐธรรมนูญ รับ-ไม่รับคำร้องประเด็นคุณทักษิณ-เพื่อไทยล้มล้างการปกครอง