RS ยิ้มไตรมาส 4/67 พีค เล็งจับมือพาร์ทเนอร์ขยายธุรกิจใหม่เพิ่ม

นายวัชรพงศ์ ลีโทชวลิต หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อในช่วงที่เหลือของปี 67 ยังมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยเริ่มกลับมากระเตื้องมากขึ้น หลังจากในปีก่อนที่ค่อนข้างชะลอตัว

ปัจจัยหลักๆ เป็นผลมาจากความต้องการบริโภคที่ขยายตัวดีขึ้น นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 4/67 ยังเป็นไฮซีซันของธุรกิจ เนื่องจากการเข้าสู่ช่วงเทศกาลสิ้นปี ส่งผลให้ความต้องการซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค เช่น อาหาร อาหารเสริม ขนมขบเคี้ยว เครื่องสำอาง และอื่นๆ มีมากขึ้น

"ภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/67 มองว่ายังคงอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากไตรมาสสุดท้ายของทุกปีจะเป็นไฮซีซันของธุรกิจ ความต้องการบริโภคสินค้ามีการขยายตัวจากเข้าใกล้เทศกาลสิ้นปี การท่องเที่ยวเป็นอีกส่วนที่เข้ามาช่วยกระตุ้นและผลักด้นยอดขาย ขณะเดียวกันธุรกิจ Per all และ Entertainment ก็มีแนวโน้มที่ดีเช่นเดียวกัน"

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวและวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตอขงยอดขายในช่วงปลายปี 67 ให้กับบริษัทได้เพิ่ม พร้อมกันนี้ จากการที่ธุรกิจรีเทลหันไปรุกการทำการตลาดในกลุ่มที่เป็น Social Commerce เพิ่มมากขึ้น อาทิ Tiktok Facebook และ Instagram เป็นต้น ยังทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้กว้างมากขึ้นอีกด้วย

ส่วนธุรกิจ RS pet all ซึ่งเป็นธุรกิจครบวงจรสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง มองว่าในไตรมาส 4/67 ผลการดำเนินงานยังมีการขยายตัวที่ดีทั้งเมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า 

โดย ธุรกิจ RS pet all ประกอบด้วย 3 ธุรกิจย่อย ได้แก่

• ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง ภายใต้แบรนด์ Lifemate, HATO VETERINARY SELECT และ Jungle Monster Thailand
• ธุรกิจเซอร์วิสภายใต้แบรนด์ HATO Pet Wellness Center และโรงพยาบาลสัตว์ HATO
• ธุรกิจรีเทลช็อป ภายใต้แบรนด์ PET ALL MY LOVE

ขณะที่ธุรกิจ Entertainment ในช่วงไตรมาส 4/67 จะมีดงานคอนเสิร์ตใหญ่ อีกประมาณ 2 อีเวนท์ ซึ่งได้รับกระแสการตอบรับที่ค่อนข้างดีในช่วงที่ผ่านมา ทำให้คาดว่าจะเป็นอีกแรงหนึ่งที่เข้ามาหนุนผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ให้ขยายตัวได้ดี

พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงมีความสนใจและมองหาโอกาสในการลงทุนธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเข้ามาต่อยอดและสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลักได้มากยิ่งขึ้นในอนาคต โดยปัจจุบันมีที่อยู่ระหว่างการศึกษาและเจรจาอยู่ อย่างน้อย 1 ดีล เบื้องต้นคาดว่าในปี 68 จะได้เห็นข้อสรุปที่ชัดเจน