ตลาดไทยแกร่ง หนุน“กัลฟ์ ไบแนนซ์”ผู้นำคริปโต

20 มี.ค. 2567 | 09:10 น.
อัพเดตล่าสุด :20 มี.ค. 2567 | 09:20 น.

ซีอีโอ Binance ชี้ตลาดไทยแข็งแกร่ง นักลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล ติด 1 ใน 10 ของโลก ภาครัฐส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ เร่งนำเทคโนโลยีบล็อกเชน-Web3 ผสานจุดแข็งกัลฟ์ นำผลิตภัณฑ์และบริการขยายตลาดไทย พร้อมสร้างการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น

แวดวงสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเคลื่อนไหวคึกคักช่วงนี้ นอกจากความเคลื่อนไหวของราคาของคริปโต โดยเฉพาะ Bitcoin กำลังตั้งลำเพื่อรับปรากฎการณ์ Bitcoin Halving ช่วงเดือนเมษายน ยังเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการมีความเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก

ตลาดไทยแกร่ง หนุน“กัลฟ์ ไบแนนซ์”ผู้นำคริปโต

ล่าสุด นายริชาร์ด เทง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของ Binance เดินทางมาไทยเป็นครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง นอกจากมาช่วยโปรโมต กัลฟ์ ไบแนนซ์ (Gulf Binance) ที่กำลังเริ่มรุกตลาดในไทยอย่างจริงจังแล้ว นายริชาร์ด เทง ยังได้สะท้อนมุมมองแนวโน้มตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในตลาดโลกและตลาดไทยได้อย่างน่าสนใจ

โดยนายริชาร์ด เทง กล่าวว่าภายหลังจากเข้ารับตำแหน่งซีอีโอ Binance นั้นได้มุ่งมั่นใน 3 เรื่อง คือ 1.มุ่งให้ความสำคัญกับผู้ใช้บริการเป็นหลัก โดยจะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ ที่ตอบสนองการลงทุนของผู้ใช้บริการมากขึ้น 2. มุ่งผลักดันให้ผู้คนทั่วโลกเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น จากปัจจุบันมีอยู่เพียง 5% ของประชากรทั่วโลกที่เข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัล

และ 3. มุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการที่มีใบอนุญาตระดับโลก (Global License) โดยสินทรัพย์ดิจิทัลเติบโตมา 6 ปี ซึ่งหลายประเทศให้ความสำคัญ มีกฎระเบียบต่างๆ ออกมาป้องกันความเสี่ยงมากมาย ซึ่ง Binance พร้อมให้ความร่วมทำงานกับหน่วยงานกำกับดูแล แต่ละประเทศ เพื่อออกกฎระเบียบ และปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆ และเป็นหุ้นส่วนร่วมลงทุน เช่น การร่วมทุนกับกัลฟ์ ในไทย

ไทยถือเป็นตลาดที่มีความแข็งแกร่งหลายด้าน ไทยมีนักลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลติด 1 ใน 10 ของโลก และมีอีโคซิสเต็มที่แข็งแกร่ง ภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมธุรกิจใหม่ๆ สนับสนุนการพัฒนาบล็อกเชน และ Web3 นอกจากนี้หน่วยงานกำกับดูแลมีการผ่อนปรนกฎระเบียบมากขึ้น อย่างไรก็ตามการรับรู้สินทรัพย์ดิจิทัลมีไม่มากนัก ซึ่งต้องพัฒนาความรู้ความเข้าใจเพื่อให้คนเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น

ขณะเดียวกัน Binance ยังมีพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งในไทย ซึ่ง Binance จะนำจุดแข็งทางด้านการเป็นผู้นำตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่สุดของโลก จุดแข็งเทคโนโลยีบล็อกเชน และ Web3 การในผสานพลังกับ กัลฟ์ ที่เป็นผู้นำโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งพลังงาน และโทรคมนาคม มาช่วยการขยายตลาดในไทย ให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น

นายริชาร์ด เทง กล่าวถึงมุมมองความเสี่ยงในสินทรัพย์ดิจิทัลว่า มี 3 อุตสาหกรรม ที่เป็นเทรนด์อนาคต คือ AI บล็อกเชน และคลาวด์ ดาต้าเซ็นเตอร์ โดยที่ผ่านมาคริปโต มีการปรับตัวมาตลอด ซึ่งตนเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้ตั้งแต่ปี 2560 ที่คริปโตไม่ใช่กระแสการลงทุนหลักในตลาด มองว่าช่วงนี้เป็นจังหวะที่ดี ที่คริปโต มีโอกาสขึ้นมาเป็นกระแสหลักในตลาด เพราะ Top 100 สถาบันการเงินระดับโลก เข้ามาลงทุนในคริปโต ผ่านกองทุน Bitcoin Spot ETF ซึ่งมองว่าช่วง 5 ปีข้างหน้าจะมีผู้เข้ามาลงทุนในคริปโตมากกว่าช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

ส่วนแนวโน้มของ Bitcoin โดยความเห็นส่วนตัว มองว่าเทรนด์ในอดีตสามารถบอกถึงเทรนด์ในอนาคตได้ โดยไซเคิล Bitcoin จะมาทุก 4 ปี หรือ ที่เรียกว่าปรากฎการณ์ Bitcoin Halving ซี่งหลังจาก Halving 4-6 เดือนราคา Bitcoin จะปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ในรอบนี้ราคา Bitcoin มีการปรับขึ้นสร้างสถิติก่อน Halving สะท้อนให้เห็นว่ามีความต้องการมากขึ้น ขณะที่ซัพพลายลดลง ซึ่งสามารถเข้าใจได้แบบตรงไปตรงมา โดยมองว่ามีโอกาสที่ราคา Bitcoin จะขยับเพิ่มขึ้นอีก

 ทั้งนี้มองว่าในการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นผู้ลงทุนจะต้องศึกษาข้อมูลด้วยตัวเอง และลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลตามความเหมาะสม ซึ่ง Binance จะมุ่งการปฏิบัติตามกฎระเบียบ เป็นไปตามมาตรฐานสากล มุ่งให้ความสำคัญเป็นยังผู้ใช้เป็นหลัก สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการว่าสินทรัพย์ที่ฝากไว้มีความปลอดภัย

ด้านนายนิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด กล่าวเสริมว่า กัลฟ์ ไบแนนซ์ เป็นผู้เล่นรายใหม่ที่เริ่มขยายตลาดปีนี้ ซึ่งตลาดคริปโตมีผู้เล่นเป็นจำนวนมาก กลยุทธ์ของ กัลฟ์ ไบแนนซ์ จะมุ่งนำผลิตภัณฑ์และบริการที่มีความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด เข้ามานำเสนอกับผู้ใช้ เพื่อต้องการสร้างส่วนแบ่งตลาดขึ้นมาให้มากสุด โดยเชื่อว่าด้วยเทคโนโลยีของ Binance ซึ่งเป็นผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่สุดของโลก และเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีบล็อกเชน และ Web3 จะช่วยผลักดันให้ กัลฟ์ ไบแนนซ์ และความน่าเชื่อถือของกัลฟ์ ที่มีความมั่นคง และน่าเชื่อถือ เป็นผู้นำโครงสร้างพื้นฐานพลังงาน และโทรคมนาคม ที่มีระบบนิเวศสำคัญ คือ AIS ซึ่งเป็นช่องทางส่งเสริมให้ผู้ใช้เข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มขึ้น จะสามารถกัลฟ์ ไบแนนซ์ ให้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย

ที่ผ่านมามีหลายเหตุการณ์ในไทยที่ทำให้ความเชื่อมั่นคริปโตลดลง ซึ่งต้องมุ่งให้ความรู้กับตลาด รวมถึงทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในฐานะผู้กำกับดูแลว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ และอะไรที่เป็นความเสี่ยง บางอย่างถ้ารัดกุมมากเกินไป อาจทำให้นวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นยาก ซึ่งบทบาทของหน่วยงานกำกับดูแล คือ การบริการความเสี่ยง และการกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมใหม่ โดย Binance มีผลิตภัณฑ์และบริการที่ให้บริการในหลายประเทศ ที่มองว่าน่าสนใจที่จะเข้ามาให้บริการในไทย ซึ่งต้องมีการพูดคุย และขออนุญาตกับ ก.ล.ต.ในอนาคต