หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจได้นำเสนอข่าวที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการเกษตรอย่าง “เครือเจริญโภคภัณฑ์” หันมาสนใจธุรกิจใหม่ 2 ด้านที่มีความสัมพันธ์ยึดโยงกัน คือด้านอสังหาริมทรัพย์และการขนส่งคือ รถไฟความเร็วสูงสายภาคตะวันออกที่เชื่อม 3 สนามบิน “ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา” ระยะทางรวม 220 กม. ซึ่งไม่ผิดความคาดหมายเพราะก่อนหน้านี้เมื่อกลางปี 2560 คอลัมน์เอราวัณ ก็ได้เปิดประเด็นไปครั้งหนึ่งแล้วว่ารถไฟความเร็วสูงภาคตะวันออกเป็นเส้นทางที่ “บิ๊กซีพี” ขอจอง ขณะที่สายใต้ กรุงเทพฯ-หัวหิน เป็นการจองของ “เบียร์ช้าง”
แต่การทำรถไฟความเร็วสูงหาจุดคุ้มทุนไม่ง่าย สิ่งที่ภาคเอกชนรวมทั้งบิ๊กในซีพี อย่างเจ้าสัวใหญ่-ธนินท์ เจียรวนนท์ คิดคือการทำกำไรในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในเส้นทางที่รถไฟความเร็วสูงผ่านและมีสถานีใกล้ที่ดินเหล่านั้น
จึงไม่น่าแปลกใจที่มีข่าวว่า “เครือซีพี” จะกว้านซื้อที่ดินราว 2 หมื่นไร่ ใน 3 จังหวัด(ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-ระยอง) เพื่อสร้างอาณาจักรอสังหาฯ และยื่นขอพัฒนาที่ดิน 150 ไร่ บริเวณมักกะสัน ที่อยู่ในการครอบครองของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยมีระยะเวลาเช่านานถึง 50 ปี รวมทั้งมีข่าวจะจับมือกับ “กลุ่มปตท.” ในการพัฒนาชุมชนบางซื่อ ที่ดินทำเลทองอีกแห่งของการรถไฟแห่งประเทศไทย
เป็นที่รู้กันในวงการเมืองว่า “บิ๊กซีพี” มีบทบาทและเข้าถึงทุกรัฐบาล รวมทั้งรัฐบาลทหาร ที่ “บิ๊กซีพี” มีบทบาททำให้รัฐบาลจีนยอมรับรัฐบาลจาก การรัฐประหาร ตั้งแต่ปี 2557 ในครั้งที่ก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งขณะนั้นนานาประเทศ รวมทั้งสหรัฐอเมริกา ทำท่าอิดออดที่จะยอมรับรัฐบาลรัฐประหาร แต่บทบาทของ “บิ๊กซีพี” มีส่วนช่วยให้รัฐบาลปักกิ่งเป็นชาติแรกที่ออกมารับรองรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงไม่น่าแปลกใจที่รถไฟความเร็วสูงสายนี้ถูกตีตราจองจากกลุ่มซีพี
การบุกธุรกิจคมนาคมและอสังหาริมทรัพย์ครั้งนี้ ถูกมองจากหลากสายตาว่า “กลุ่มซีพี” กำลัง “กินรวบประเทศ” ซึ่งเป็นสิ่งที่ “บิ๊กซีพี” ไม่อยากได้ภาพลักษณ์ จึงมีข่าวทุ่มเงิน 20 ล้านบาทจากบริษัทประชาสัมพันธ์รายหนึ่งเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับกลุ่ม ความจริงแล้วภาพลักษณ์ที่ดี ทำไม่ยากไม่ต้องจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์ให้ยุ่งยากเพียงแต่มีความจริงใจรู้จักคืนกำไรให้สังคมบ้าง ดูตัวอย่างมหาเศรษฐีระดับโลกอย่าง มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ที่ประกาศบริจาคหุ้น 99% ที่ถืออยู่ในเฟซบุ๊ก มูลค่าราว 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับองค์กรการกุศลในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
..............................
คอลัมน์ : ที่นี่ไม่มีความลับ /หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3346 ระหว่างวันที่ 8-10 มี.ค. 2561