ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงความคืบหน้า “เงินไร่ละพัน” ในโครงการช่วยสนับสนุนค่าเก็บเกี่ยวข้าวเป็น 1,000 บาทต่อไร่ ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ ใช้งบประมาณ 38,578 ล้านบาท มากกว่ากรอบวงเงินเดิม 29,980.1645 ล้านบาท ในโครงการเดิม “ปุ๋ยคนละครึ่ง” ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) มาแล้วเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ล่าสุดมีปัญหาเชิงเทคนิคทำให้ต้องเลื่อนเงินไร่ละพัน เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรเชียงใหม่ออกไปก่อน และคาดว่าจะเข้าที่ประชุม ครม.ในวันที่ 3 ธันวาคมนี้
ส่วนอีก 3 มาตรการจะเข้าที่ประชุม ครม.เห็นชอบ ได้แก่
1.โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2567/68
กำหนดให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับค่าฝากเก็บและรักษา คุณภาพข้าวในอัตรา 1,500 บาทต่อตันข้าวเปลือก โดยเกษตรกรที่เก็บข้าวเปลือกในยุ้งฉางตนเองได้รับเต็มจำนวน สำหรับสถาบันเกษตรกรที่รับซื้อข้าวเปลือกเข้าโครงการฯ ได้รับในอัตรา 1,000 บาทต่อตันข้าวเปลือก และเกษตรกรผู้ขายข้าวได้รับในอัตรา 500 บาทต่อตันข้าวเปลือก
2.โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2567/68
ระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ– 31 ธันวาคม 2568 3)วงเงินงบประมาณ รวมทั้งสิ้น 15,656.25 ล้านบาท จำแนกเป็น วงเงินสินเชื่อ 15,000.00 ล้านบาท และวงเงินจ่ายขาดเพื่อชดเชยดอกเบี้ย 656.25 ล้านบาท โดยให้ ธ.ก.ส. ขอจัดสรรจากงบประมาณรายจ่าย ในปีงบประมาณต่อไป
3.โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก ปีการผลิต 2567/68
วิธีการ รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการค้าข้าวที่จะเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านธนาคาร พาณิชย์หรือธนาคารของรัฐ ที่ผู้ประกอบการค้าข้าวเป็นลูกค้าอยู่ ตามมูลค่าข้าวเปลือกที่ผู้เข้าร่วมโครงการฯ เก็บสต็อกไว้ในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี ตามระยะเวลาที่เก็บสต็อกไว้ 60-180 วัน นับแต่วันที่รับซื้อ เป้าหมาย 4 ล้านตัน ระยะเวลารับซื้อ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ – 31 มี.ค. 2568 (ภาคทั่วไป) วันที่ 1 ม.ค.2568 – 30 มิ.ย. 2568
ส่วน (ภาคใต้) 3) ระยะเวลาเก็บสต็อก ตั้งแต่ ครม. มีมติ – 30 ก.ย. 2568 (ภาคทั่วไป) วันที่ 1 ม.ค. 2568 – 31 ธ.ค. 2568 (ภาคใต้) 4) ระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ – 31 ต.ค.2569 5) วงเงินงบประมาณ รวมทั้งสิ้น 585 ล้านบาท โดยจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567และเมื่อ ครม.อนุมัติ ก็จะดำเนินการจ่ายเงินให้กับเกษตรกรได้ทันที