นางอินเนส คาลไดรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากผลกระทบในช่วงล็อกดาวน์ ที่ทำให้ร้านตัดผม หรือร้านซาลอน ต้องปิดให้บริการไปราว 6 สัปดาห์ และเมื่อภาครัฐประกาศคลายล็อก ให้ร้านตัดผมสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา ลอรีอัล ในฐานะพันธมิตรกับร้านตัดผม ซึ่งมีเน็ตเวิร์กอยู่กว่า 1,000 ร้าน จึงได้จัดโครงการความช่วยเหลือ L’Oréal Thailand Salon Solidarity สนับสนุนธุรกิจร้านตัดผม-เสริมสวย และช่างผมไทย ให้ก้าวผ่านวิกฤติโควิด-19 กลับมามีรายได้อย่างรวดเร็ว
ขณะนี้ ลอรีอัลได้พักการชำระหนี้ให้กับร้านซาลอน ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา จนกว่าร้านเหล่านั้น จะสามารถกลับมาเปิดบริการได้เต็มรูปแบบ นอกจากนี้ ยังแจกเจลแอลกอฮอล์ และหน้ากากเฟซชีลด์ ให้กับบรรดาร้านซาลอน เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยง ทั้งของช่างผม และลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้าน
นอกจากนี้ ยังเตรียมแผนร่วมกันพันธมิตร ในการจัดทำแอพพลิเคชัน หรือโปรแกรมในการบุ๊กกิ้งล่วงหน้า เพราะตามมาตรการคลายล็อกดาวน์ ยังต้องเว้นระยะห่าง และไม่สามารถนั่งรอในร้านได้ สำหรับร้านขนาดเล็ก ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับร้านซาลอน และผู้ใช้บริการ
ส่วนของการเพิ่มเติมทักษะ เป็นอีกหนึ่งความช่วยเหลือสำคัญ ที่ลอรีอัลต้องการยกระดับบริการของร้านซาลอน ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตรงกับความต้องการของผู้ใช้บริการมากขึ้น ทั้งทักษะการให้บริการอย่างมืออาชีพ ในการจัดแต่งทรงผม การทำสีผม การสระ ดัด ทุกอย่าง รวมไปถึง การเพิ่มความรู้ในการทำตลาด การเปิดช่องทางออนไลน์ เพื่อโปรโมตร้านให้เป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับจากผู้ใช้บริการมากขึ้น ซึ่งการพัฒนาทักษะในด้านต่างๆ จัดทำผ่านทางออนไลน์ และไลฟ์สตรีมมิ่ง โดยเบื้องต้นมีผู้รับฟังแล้วกว่า 1 หมื่นวิว ในช่วง 24 ชม.หลังการบรรยาย