"หมอธีระ"ชี้โควิด-19 ทะลุ 47 ล้านคน คาดจะเลย 50 ล้านคนกลางพ.ย.

03 พ.ย. 2563 | 02:44 น.
อัปเดตล่าสุด :03 พ.ย. 2563 | 09:53 น.

"หมอธีระ"ชี้โควิด-19 ทะลุ 47 ล้านคนไปแล้ว คาดว่าจะเลย 50 ล้านตอนกลางเดือนพฤศจิกายน สถิติการติดเชื้อรายวันในภาพรวมของทั่วโลกนั้นสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกล่าสุด 3 พฤศจิกายน 2563 ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat  ระบุว่า ทะลุ 47 ล้านคนไปแล้ว...คาดว่าจะเลย 50 ล้านตอนกลางเดือนพฤศจิกายนครับ

 

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 495,933 คน รวมแล้วตอนนี้ 47,269,695 คน ตายเพิ่มอีก 5,589 คน ยอดตายรวม 1,210,151 คน

 

อเมริกา ติดเพิ่ม 87,682 คน รวม 9,548,169 คน ขณะนี้ตายไปแล้ว 236,883 คน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่วม! ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 47 ล้านราย เพิ่มขึ้น 4.3 แสนราย

 

 

อินเดีย ติดเพิ่ม 37,592 คน รวม 8,266,914 คน

 

บราซิล ติดเพิ่ม 8,501 คน รวม 5,554,206 คน

 

รัสเซีย ติดเพิ่มทำลายสถิติอีกครั้ง 18,257 คน รวม 1,655,038 คน

 

อันดับ 5-10 ตอนนี้ ฝรั่งเศส สเปน อาร์เจนตินา โคลอมเบีย สหราชอาณาจักร และเม็กซิโก ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่นต่อวัน

 

อิตาลี เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ แคนาดา สวิสเซอร์แลนด์ รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเมียนมาร์ ติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลายหมื่น

 

ที่น่าจับตามองคือ สวิสเซอร์แลนด์ ยอดการติดเชื้อต่อวันในแต่ละสัปดาห์สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดติดเพิ่มถึง 21,926 คน สูงขึ่นอย่างต่อเนื่องมาถึง 7 สัปดาห์ติดต่อกัน

 

หลายต่อหลายประเทศในยุโรป ก็ยังติดกันหลักร้อยถึงหลักพัน

 

ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ติดเพิ่มกันหลักร้อย ส่วนจีน เวียดนาม และเกาหลีใต้ ติดเพิ่มหลักสิบไปถึงเฉียดร้อย ในขณะที่สิงคโปร์ ฮ่องกง ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ยังมีติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

 

...สถานการณ์ในเมียนมาร์ เมื่อวานติดเพิ่ม 1,202 คน ตายเพิ่มอีก 24 คน ตอนนี้ยอดรวม 54,607 คน ตายไป 1,282 คน อัตราตายตอนนี้ 2.3%

สถิติการติดเชื้อรายวันในภาพรวมของทั่วโลกนั้นสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

หากเทียบปลายตุลาคม สูงกว่าเมษายนถึง 7 เท่า สูงกว่ามิถุนายน 3.25 เท่า และสูงกว่าสิงหาคม 2 เท่า

 

ยิ่งนานไป...โดยปกติแล้วควรจัดการได้ดีขึ้น คงที่หรือลดลงกว่าเดิม แต่นี่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บ่งถึงการไม่สามารถควบคุมได้

 

การลดวันกักตัวลงจาก 14 วันนั้น ตามหลักฐานวิชาการแล้วเพิ่มความเสี่ยงต่อการหลุดรอดของผู้ที่ติดเชื้อไปในชุมชน

 

ดังนั้นการใช้ชีวิตประจำวันของเราจึงต้องใส่หน้ากากเสมอ ระมัดระวังการพูดคุยกันในระยะใกล้ หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่หรือห้องที่เป็นระบบปิด หมั่นล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังหยิบจับสิ่งของสาธารณะรวมถึงธนบัตร เหรียญ หรือปากกาที่ใช้ร่วมกัน

 

หากมีอาการไม่สบาย ไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก คัดจมูก มีเสมหะ ดมไม่ได้กลิ่น ลิ้นรับรสไม่ได้ หรือท้องเสีย ควรหยุดเรียน หยุดงาน และรีบไปตรวจรักษาครับ