เปิดเงื่อนไข"ที่พักผู้สูงอายุ รามา-ธนารักษ์"เริ่มต้น 1.82 ล้าน เปิดจอง 9-30 พ.ย.นี้

07 พ.ย. 2563 | 08:09 น.
อัปเดตล่าสุด :09 พ.ย. 2563 | 11:50 น.

เปิดเกณฑ์และเงื่อนไข"ที่พักผู้สูงอายุ รามา-ธนารักษ์"เริ่มต้น 1.82 ล้าน เปิดจอง 9-30 พ.ย. อธิบดีกรมธนารักษ์ แย้มหากได้รับความสนใจเตรียมเปิดเฟส 2 ต่อ

 

7 พ.ย. 2563  นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์เตรียมเปิดให้จองสิทธิ์โครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุรามาฯ – ธนารักษ์ บนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สป.623 (บางส่วน) ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เนื้อที่ 20 ไร่  ในระหว่างวันที่ 9 - 30 พ.ย. 2563  จำนวน 921 ยูนิต โดยเป็นอาคาร 8 ชั้น จำนวน 7 อาคาร มีขนาดห้องพักอาศัยตั้งแต่ 31.87 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 1.82 ล้านบาทต่อยูนิต จนถึงขนาด 49.66 ตารางเมตร ราคา 2.99 ล้านบาทต่อยูนิต  ( ราคารวมเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า)  
 

 

เปิดเงื่อนไข\"ที่พักผู้สูงอายุ รามา-ธนารักษ์\"เริ่มต้น 1.82 ล้าน เปิดจอง 9-30 พ.ย.นี้

 

โดยโครงการดังกล่าวเป็นโครงการนำร่องเพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Ageing Society) ของประเทศไทย และเป็นการตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก จากโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บนที่ราชพัสดุที่มีศักยภาพ

 

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้กลางปี 2564 คาดจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2565  และเข้าอยู่อาศัยได้ภายในต้นปี 2566 

 

โครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุรามาฯ – ธนารักษ์ คาดว่าจะได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างดี โดยหากมีการจองสิทธิ์และตรวจสอบคุณสมบัติผ่านกว่าจำนวนที่กำหนด จะใช้วิธีจับฉลาก ส่วนที่เกินจะถูกจัดเป็นกลุ่มสำรอง หากตรวจสอบคุณสมบัติอีกครั้งแล้วมีผู้ไม่ผ่านเกณฑ์ก็จะให้สิทธิ์กับกลุ่มสำรองก่อน โดยหากพิจารณาแล้วว่าโครงการได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ก็จะมีการเปิดเฟส 2 ซึ่งปัจจุบันกรมธนารักษ์ได้มีการเตรียมที่ดินราชพัสดุเพื่อรองรับการดำเนินโครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุ เฟส 2 ไว้เรียบร้อยแล้ว” นายยุทธนา กล่าว

 

 

เปิดเงื่อนไข\"ที่พักผู้สูงอายุ รามา-ธนารักษ์\"เริ่มต้น 1.82 ล้าน เปิดจอง 9-30 พ.ย.นี้

 

 

ประชาชนที่สนใจสามารถจองสิทธิ์ได้ 2 ช่องทางคือ

 

1.จองผ่านระบบอินเตอร์เน็ต โดยให้ผู้สูงอายุหรือตัวแทนแสดงความประสงค์และจัดส่งเอกสารผ่านเว็บไซต์ของกรมธนารักษ์ หรือสำนักงานธนารักษ์พื้นที่สมุทรปราการ และเว็บไซต์เครือข่ายพันธมิตรโครงการฯ ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

 

2. จองผ่านเจ้าหน้าที่ ของกรมธนารักษ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ ถนนพระรามที่ 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กทม. บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. (เฉพาะวันและเวลาราชการ 08.30 น. – 16.30 น. เท่านั้น เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์) 


 

คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ

 

1. มีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 58 ปี ณ วันที่จองสิทธิ และหรือมีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ณ วันที่เข้าพักอาศัยจริง

 

2.มีสุขภาพแข็งแรง ช่วยเหลือพึ่งพาตัวเองได้ดี ไม่มีโรคหรืออาการของโรคอันเป็นอุปสรรคในการเข้าพักอาศัยภายในโครงการฯ ตามความเห็นของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล  โดยผู้สูงอายุจะต้องผ่านการคัดกรองสุขภาพตามหลักเกณฑ์ของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลก่อนจึงจะสามารถเข้าพักอาศัยได้ และสามารถพักอาศัยได้ไม่เกิน 2 คนต่อยูนิต โดยให้ผู้ที่มีคุณสมบัติหลักเป็นสัญชาติไทยอย่างน้อย 1 คน


3.สามารถยอมรับเงื่อนไขค่าใช้จ่ายตามที่โครงการฯ กำหนด หรือยอมรับเงื่อนไขการขอสินเชื่อจากธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ ฯ ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.), ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย และไม่สามารถซื้อขายหรือโอนสิทธิ์การเช่าให้บุคคลอื่นได้ เว้นแต่ขายคืนให้แก่ผู้บริหารโครงการ แต่หากผู้ได้สิทธิ์ประสงค์จะออกจากโครงการก่อนระยะเวลาเช่า 30 ปี หรือเสียชีวิต สิทธิ์การพักอาศัยจะถูกระงับทันที โดยไม่ตกทอดแก่ทายาท ซึ่งผู้บริหารโครงการจะมีข้อกำหนดในการคืนเงินของผู้ได้รับสิทธิ์อยู่อาศัยให้กับผู้รับผลประโยชน์

 

สำหรับค่าส่วนกลางในการดูแลรักษาอาคาร ประมาณเดือนละ 2,000 บาท ชำระเป็นรายปี กำหนดล่วงหน้า 3 ปี ค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพเดือนละ 2,000 บาทต่อท่านชำระเป็นรายปี กำหนดล่วงหน้า 1 ปี เนื่องจากโครงการจะมีกิจกรรมให้ผู้สูงอายุด้านต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ พร้อมอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุ 

 

เปิดเงื่อนไข\"ที่พักผู้สูงอายุ รามา-ธนารักษ์\"เริ่มต้น 1.82 ล้าน เปิดจอง 9-30 พ.ย.นี้

 

ด้านศาสตราจารย์ นายแพทย์ ปิยะมิตร ศรีธรา คณะบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการคัดกรองผู้ได้รับสิทธิ์ประมาณ 2 เดือน โดยจะมีการพิจารณาลักษณะทางสุขภาพร่างกายและคุณสมบัติทางการเงิน เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับโครงการในระยะยาว ทั้งนี้ยืนยันว่าโครงการไม่ได้มุ่งหวังผลกำไรแต่อย่างใด แต่ต้องการดูแลกลุ่มผู้สูงอายุให้ใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว

 

โครงการนี้ได้จัดทำให้สอดคล้องกับความต้องการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ โดยกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถใช้บริการของสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ซึ่งอยู่ห่างเพียง 800 เมตร และมีโรงพยาบาลขนาดใหญ่อื่น ๆ อยู่ใกล้เคียงด้วย และจะมีการจัดทำศูนย์เรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุแบบครบวงจรและบริบาลผู้ป่วยระยะสุดท้าย (Nursing Home) เพื่อรองรับผู้สูงอายุที่เข้าสู่ภาวะต้องพึ่งพิง หรือติดเตียงและเป็นผู้ป่วยระยะสุดท้าย จำนวน 500 ยูนิต


นอกจากนี้จะมีการจัดทำโครงการส่งเสริมสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ โดยใช้ระบบสมาชิก หรือรูปแบบผลิตภัณฑ์สุขภาพ (Health Package) ให้เลือก และจะมีพื้นที่เชิงพาณิชย์สำหรับให้บริการผู้สูงอายุที่พักอาศัย เนื้อที่ประมาณ 4-5 ไร่ รวมทั้งจะมีการจัดทำศูนย์เพื่อฝึกอาชีพให้กับผู้สูงอายุที่ต้องการอีกด้วย

 

อ่านเพิ่ม  :  หลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุรามาฯ – ธนารักษ์