18 กุมภาพันธ์ 2564 - นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนายแพทย์ปัญญา หาญพาณิชย์พันธุ์ ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์รายแรกของประเทศไทยที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด 19 โดยจากรายงานการสอบสวนโรค พบว่า นายแพทย์ปัญญา อายุ 66 ปีมีโรคประจำตัวที่รับการรักษาต่อเนื่อง คือ โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง และถุงลมในปอดโป่งพอง ติดเชื้อโควิด 19 จากการรักษาผู้ป่วย 3 รายที่คลินิกส่วนตัว
ทราบภายหลังว่าทั้ง 3 รายตรวจพบเชื้อโควิด 19โดย 1 ใน 3 ราย มีอาการไข้ต่อเนื่องหลายวัน จึงได้ทำการตรวจอย่างละเอียด อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย เช่น ตรวจการอักเสบภายในลำคอ การเคลื่อนไหวของลิ้นไก่ ทดสอบการหายใจเพื่อฟังเสียงของปอด เช็คภาวะปอดอักเสบจึงอาจสัมผัสกับละอองฝอยหรือน้ำลายผู้ป่วยที่มีเชื้อโควิด 19 ที่ตกอยู่ หรือผ่านทางรอยต่อของหน้ากากอนามัยได้
นายแพทย์ณัฐพงศ์กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนแก่บุคลากรทางการแพทย์ ในการเพิ่มความระมัดระวังป้องกันตนเอง โดยเฉพาะขณะให้การรักษาผู้ป่วย แม้มีอุปกรณ์ช่วยป้องกันการแพร่เชื้อ ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ทำความสะอาดอุปกรณ์ กำจัดขยะติดเชื้ออย่างถูกวิธี รวมถึงจัดสถานที่ให้เหมาะสม จัดระบบระบายอากาศ เว้นระยะห่างกับผู้ป่วย
สำหรับประชาชน ขอให้ดูแลสุขภาพตนเอง โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดัน หัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น ซึ่งมีภูมิต้านทานน้อยกว่าปกติ มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย หลีกเลี่ยงหรืองดไปในพื้นที่เสี่ยง สถานที่แออัด สวมหน้ากากและหมั่นล้างมือเป็นประจำ หากมีความจำเป็นต้องไปสถานพยาบาล โรงพยาบาล คลินิก ทั้งภาครัฐและเอกชน ควรประเมินและแจ้งประวัติความเสี่ยงอย่างตรงไปตรงมา เพื่อการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้อง และเพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ระมัดระวัง ช่วยลดการแพร่-รับเชื้อได้
ทั้งนี้ ตั้งแต่มีการระบาดของโรคโควิด 19 ระลอกใหม่ (วันที่ 15 ธันวาคม 2564 – ปัจจุบัน) ได้รับรายงานบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิด 19 แล้วจำนวน 36 ราย อายุเฉลี่ย 36 ปี (ต่ำสุด 21 ปี สูงสุด 70 ปี) เป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงวัยทำงานตั้งแต่ 20 ปี – 49 ปี เป็นพยาบาล 9 ราย แพทย์ และ เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลอย่างละ 4 ราย, เภสัชกร 3 ราย, นักเทคนิครังสี/ผู้ช่วยนักเทคนิครังสี 2 ราย, ทันตแพทย์ ผู้ช่วยพยาบาล นักเทคนิคการแพทย์ นักกายภาพบำบัด นักศึกษาแพทย์ พนักงานเวรเปลอย่างละ 1 ราย , เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ธุรการ ชันสูตรศพรวม 8 ราย ซึ่งส่วนใหญ่มีประวัติสัมผัสจากผู้ป่วย หรือใกล้ชิดคนในครอบครัว ในจำนวนนี้เสียชีวิต 1 ราย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :