สะใภ้"กัลป์ตินันท์"ชิงนายกฯนครอุบล

"กัลป์ตินันท์"หวังกวาดเก้าอี้ผู้บริหารท้องถิ่นเบ็ดเสร็จ ส่ง"พิศทยา"ลูกสะใภ้ชิงนายกเทศมนตรีนครอุบลฯ หลังคว้าเก้าอี้นายก อบจ.มาแล้ว ลงสนามบู๊กับ"ประชา"อดีตรองนายกเทศมนตรี ขณะที่"วิศรุต"หวังจับกระแสคนรุ่นใหม่

การรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล(สท.) และนายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี ระหว่างวันที่  8-12 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ห้องประชุมอาคารตลาดเทศบาล 3 (ตลาดใหญ่) ชั้น 2 มีลงสนาม 3 ทีม โดยสมัครตั้งแต่วันแรก 2 ทีม คือ กลุ่มเพื่อไทยนครอุบล และกลุ่มเพื่ออุบล ที่เดินทางมาถึงสถานที่รับสมัครก่อนเวลาเปิด จึงต้องจับสลากหาหมายเลข โดยตกลงกันว่าหากผู้สมัครนายกฯกลุ่มใดจับได้หมายเล    ข 1 ผู้สมัครสท.ของกลุ่มจะได้หมายเลข 1-6 ทุกเขต หากได้เลข 2 สท.ในกลุ่มก็จะได้หมายเลข 7-12 ทุกเขต ซึ่งมีจำนวนเขตละ 6 คน 4 เขตเลือกตั้ง รวม 24 คน  

ผลการจับสลาก  
นางพิศทยา ไชยสงคราม ในนามกลุ่มเพื่อไทยนครอุบล ได้หมายเลข 1 
นายประชา กิจตรงศิริ ในนามกลุ่มเพื่ออุบล ได้หมายเลข 2 
จากนั้นในวันถัดมา นายวิศรุต สวัสดิ์วร  เดินทางมายื่นสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี ในนามกลุ่มนครอุบลก้าวหน้า ได้หมายเลข 3 
รวมเป็นผู้สมัครเข้าชิงชัยนายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี รวม 3 คน 

วัดกัน ณ นาทีนี้ต้องถือว่า นางพิศทยามีน้ำมีนวลมากที่สุด โดยนางพิศทยา ไชยสงคราม เป็นภริยานายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์  ส.ส.เพื่อไทย เขต 1  อุบลราชธานี ซึ่งเป็นบุตรนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ปูฐานเสียงในพื้นที่อุบลราชธานีมายาวนาน มีคะแนนพื้นฐานตุนไว้ในมือ  แถมยังมีแรงหนุนจากเพื่อไทย แม้พรรคจะไม่ส่งผู้สมัครลงชิงชัยสนามเลือกตั้งระดับท้องถิ่นอย่างเป็นทางการ แต่เป็นที่รู้กันว่าพร้อมหนุนเต็มที่ ในวันสมัครรับเลือกตั้งทั้งทีมปรากฎตัวในเสื้อพรรคเพื่อไทย
การส่งสะใภ้อย่างพิศทยาลงชิงนายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี เป็นอีกสนามที่จะวัดศรัทธาชาวอุบลฯ ซึ่งเก้าอี้นี้เดิมภริยาของ"เกรียง"นั่งอยู่ แต่ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาพ่ายให้แก่“นายกแอน” สมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ ในนามกลุ่มคุณธรรมโดยการสนับสนุนของพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ 

เมื่อเปิดสนามเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานีที่ผ่านมา นายกแอนสมปรารถนาเปลี่ยนสนาม ขอลงชิงนายก อบจ. ขณะที่"เกรียง"ส่ง"กานต์"น้องชายลงสนาม และชนะการเลือกตั้ง ชิงเก้าอี้ผู้บริหารท้องถิ่นกลับสู่"กัลป์ตินันท์"สำเร็จไปแล้ว 1 เก้าอี้ และเดินหน้าส่ง"สะใภ้"ลงสนาม เพื่อขอทวงเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครอุบลฯกลับมาครองอีกหนึ่ง
นางพิศทยา ชูความเป็นตัวแทนคนทุกรุ่น ทำงานร่วมได้กับทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่ ใช้ประสบการณ์ด้านธุรกิจมาช่วยแก้ปัญหา เสนอนโยบาย“ฟื้นฟูนครอุบล ปลุกชีวิต สร้างเศรษฐกิจดีให้คนอุบล” เช่น ฟื้นโครงการถนนเลียบแม่น้ำมูลถึงอ่างเก็บน้ำห้วยวังนอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ที่ออกกำลังกาย ตลาดนัด ตลาดโต้รุ่ง เปิดพื้นที่สตรีท ฟู้ด  ยกระดับอุบลเป็น “Green City นครอุบล ปอดของคนอีสานตอนล่าง”ผลักดัน Art City : นครอุบล เมืองแห่งสถาปัตยกรรมร่วมสมัย  หนุนCafé City : นครอุบล เมืองแห่งคาเฟ่ ส่งเสริมกีฬา ตลอดจนพัฒนาทักษะอาชีพสร้างงานสร้างรายได้
    

ขณะที่"ประชา กิจตรงศิริ" ผู้สมัครหมายเลข 2 กลุ่มเพื่ออุบล ก็ประมาทไม่ได้ ถือเป็น"ลูกหม้อ"สนามท้องถิ่นแห่งนี้ เป็นอดีตรองนายกฯหลายสมัยตั้งแต่ยังไม่ได้รับการยกระดับเป็นเทศบาลนคร ชูความคุ้นเคยและประสบการณ์การทำงาน ในการบริหารงานเทศบาลเป็นอย่างดี 
    นโยบายของ"ประชา"ที่ใช้หาเสียงจึงเสนออย่างเป็นรูปธรรมจับต้องได้ โดยอันดับแรกต้องปรับองค์กร บุคลากรให้มีความพร้อมในการทำงานอย่างมีความสุข เพื่อบริการประชาชน ประเด็นเร่งด่วนคือ รีบฟื้นฟูเศรษฐกิจ ให้ประชาชนกลับมามีรายได้หลังโควิด-19 ด้วยนโยบาย 10 เรื่องหลัก คือ  
    1. เมืองแห่ง Event 12 เดือน เที่ยวได้ตลอดปี  2. ศูนย์เยาวชนเทคโนโลยี สร้างเศรษฐกิจยุค Digital ของคนรุ่นใหม่  3. ปลุกเมืองเก่า สร้างเทศกาลใหม่   ปรับปรุงภูมิทัศน์เกาะหาดวัดใต้  Ubon’s China Town , Water Sport Festival  แหล่งสันทนาการริมแม่น้ำมูล   4. อยากเรียนต้องได้เรียน ภาษาได้ปลอดภัยด้วย  คือ มีโปรแกรมภาษาอังกฤษ จีน และอาเซียน, ติดตั้งกล้องวงจรปิด ทั้งภายนอกและภายในโรงเรียน, สร้างหลักสูตรตามความถนัดของผู้เรียน 

    5. Senior Care ดูแลผู้สูงวัย 6. ศูนย์สนับสนุนกาย อุปกรณ์ผู้ด้อยโอกาส 7. ปลดชุมชนแออัด ทำบ้านมั่นคง 8. นครปลอดภัย ทันสมัย น่าอยู่  ไร้สายไฟฟ้า ที่ทุกคนเข้าถึงได้  9. มูลน้อยสะอาด บ่อบำบัดน้ำเสีย และ10. แก้น้ำท่วมขัง ด้วยอุโมงค์ระบายน้ำ จากถนนชยางกูรฃไปลงห้วยม่วง แหล่งน้ำธรรมชาติ ต่อไป
 

ด้าน"วิศรุต" ในนามกลุ่มนครอุบลก้าวหน้า  อดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ และเป็นแกนนำกลุ่มปลดแอกอุบลฯ โดยคราวนี้กลุ่มก้าวหน้าไม่ได้เปิดตัวจะส่งคนลงสมัครเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ "วิศรุต"เปิดตัวลงสมัครชิงนายกเทศมนตรีนครอุบลฯ โดยใช้สัญญลักษณ์"สีส้ม"และแนวนโยบายที่สอดคล้องกับแนวทางกลุ่มราษฎรและพรรคก้าวไกล อาทิ นโยบาย ยุติราชการรวมศูนย์นครอุบลฯ  การศึกษาก้าวหน้า คนอุบลก้าวทันโลก สร้างการเมืองใหม่นครอุบลฯ มีส่วนร่วมงบเปิดเผย ลงสนามท้องถิ่นครั้งนี้จึงถือเป็นการ"ชิมลาง"หวังจับกระแสคนรุ่นใหม่ของอุบลราชธานีอีกครั้ง