นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงมีอยู่ รัฐบาลจึงได้ขยายเวลาการยกเว้นภาษีหน้ากากอนามัยและวัสดุที่ใช้ในการผลิตหน้ากากออกไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 ให้มั่นใจว่า ประเทศไทยจะยังคงมีปริมาณหน้ากากเพียงพอสำหรับความต้องการของบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย กลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ รวมถึงประชาชนให้สามารถเข้าถึงสินค้าประเภทหน้ากากได้อย่างทั่วถึง
สำหรับการขยายเวลายกเว้นภาษีหน้ากากครั้งนี้ ประกอบด้วย 2 มาตรการ คือ
1.การยกเว้นภาษีสำหรับสินค้าหน้ากากชนิดที่ใช้ในห้องผ่าตัด หน้ากากกรองฝุ่น หมอกควัน หรือสารพิษ หน้ากากกรองเชื้อโรค และหน้ากากทางการแพทย์ เป็นต้น
2.การยกเว้นภาษีสำหรับของที่นำเข้ามาเพื่อผลิตเป็นหน้ากากที่ใช้ในห้องผ่าตัด หน้ากากกรองเชื้อโรค หน้ากากทางการแพทย์ หน้ากากกรองฝุ่น หมอกควัน หรือสารพิษ เป็นต้น
ทั้งนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 23 มี.ค.64 ครม.ได้เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530 (ฉบับที่ ..) และร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับของที่นำเข้ามาเพื่อผลิตเป็นหน้ากาก (ฉบับที่ ..) รวม 2 ฉบับ
สาระสำคัญ เป็นการขยายระยะเวลามาตรการยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับสินค้าหน้ากากชนิดที่ใช้ในห้องผ่าตัด หน้ากากกรองฝุ่น หมอกควัน หรือสารพิษ บรรดาที่เป็นอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย และหน้ากากกรองเชื้อโรค และหน้ากากทางการแพทย์ นอกจากหน้ากากชนิดที่ใช้ในห้องผ่าตัด ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564
นอกจากนี้ยังได้เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับของที่นำเข้ามาเพื่อผลิตเป็นหน้ากากที่ใช้ในห้องผ่าตัด หน้ากากกรองเชื้อโรค หน้ากากทางการแพทย์นอกจากหน้ากากชนิดที่ใช้ในห้องผ่าตัด และหน้ากากกรองฝุ่น หมอกควัน หรือสารพิษ บรรดาที่เป็นอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 "โควิด-19" ที่จะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมากระทรวงการคลัง เคยมีมาตรการยกเว้นอากรศุลกากรเพื่อดูแล และเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 ฉบับที่ 3 และ ฉบับที่ 7 และประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับของที่นำเข้ามาเพื่อผลิตเป็นหน้ากาก ลงวันที่ 22 ธันวาคม 2563 ซึ่งได้สิ้นผลใช้บังคับแล้ว แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในต่างประเทศ และเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ภายในประเทศ เพื่อให้มีปริมาณหน้ากากเพียงพอ สำหรับความต้องการใช้ของบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย กลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ รวมถึงประชาชนสามารถเข้าถึงสินค้าหน้ากากได้อย่างทั่วถึง จึงให้ขยายระยะเวลามาตรการยกเว้นอากรศุลกากรที่มีความจำเป็น
การขยายระยะเวลามาตรการยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับสินค้าดังกล่าวจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้โดยประมาณ 9 ล้านบาท และการสูญเสียรายได้ก็อาจจะเพิ่มสูงขึ้นตามปริมาณความต้องการภายในประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แห่ตุนหน้ากาก ดันราคาพุ่ง สินค้าจีนทะลัก!
นายกฯสั่ง เว้นภาษีนำเข้าหน้ากาก-เวชภัณฑ์ แก้ปัญหาขาดแคลน
WTO เผยจีนครองแชมป์ ส่งออกหน้ากากช่วงโควิด-19