จากกรณีที่นายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความห่วงใย สายด่วน 1668 ไม่มีคนรับสาย ทางกรมการแพทย์ โดยนายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ขอชี้แจงว่ากรมการแพทย์ไม่ได้นิ่งนอนใจ บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ของกรมการแพทย์มีความห่วงใยประชาชน จึงรวบรวมจิตอาสากว่า 200 ชีวิต ประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ในตำแหน่งต่าง ๆ ที่สามารถให้คำแนะนำเบื้องต้น
"จิตอาสาที่ระดมมาช่วย สามารถใช้ทักษะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางการแพทย์ จิตวิทยาในการสื่อสารกับผู้ป่วยและการให้กำลังใจ เปรียบเสมือนผู้ป่วยคือคนในครอบครัว เพื่อคลายความกังวลใจแก่ผู้ติดเชื้อได้ ซึ่งจิตอาสาทุกท่านล้วนแต่มีงานประจำที่ต้องปฏิบัติเป็นจำนวนมาก แต่ยังมีจิตอาสาทำงานสายด่วนดังกล่าวโดยไม่มีวันหยุดอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ด้วยความเชื่อที่กรมการแพทย์ยึดมั่นเสมอว่า “ทุกลมหายใจที่ได้คืนมามีค่ามากเกินกว่าคำชื่นชม”
นายแพทย์สมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์ในปัจจุบันมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด -19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจก่อให้จึงทำให้เกิดความล่าช้าในการติดต่อประสานงานบ้าง แต่อยากให้ทุกท่านทราบว่าบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนพยายามทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อประชาชนทุกคน และแม้ว่า 1668 เป็นสายด่วนเฉพาะกิจเปิดให้บริการทุกวันระหว่างเวลา 08.00 -22.00 น. แต่มีการทำงานอย่างละเอียดโดยแบ่งเป็น 4 ทีมหลัก ดังนี้
1. ทีมรับสาย Hotline 1668 จากผู้ป่วยโควิด 19 สอบถามข้อมูลรายละเอียดของผู้ป่วย
2. ทีมข้อมูล มีหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลจากทีมงานสายด่วนและทีมประสานงาน วิเคราะห์ข้อมูล จัดทำฐานข้อมูล สรุปข้อมูลรายวัน
3. ทีมแพทย์ มีทีมแพทย์ประเมินอาการระดับความรุนแรงของผู้ป่วย ซึ่งแบ่งเป็น 3 ระดับ ตามความรุนแรงของโรค
4. ทีมตอบสนองและประสานงาน มีหน้าที่ประสานขอเตียงจากโรงพยาบาลเป้าหมาย (ผ่านศูนย์ส่งต่อโรงพยาบาลราชวิถี กรณีเป็นผู้ติดเชื้อในความรับผิดชอบของกรมการแพทย์ และประสานผ่านศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร กรณีเป็นผู้ติดเชื้อในความรับผิดชอบของโรงพยาบาลนอกสังกัดกรมการแพทย์) รวมทั้งโทรเยี่ยมติดตามอาการของผู้ป่วย ซึ่งแต่ละสายใช้เวลาในการพูดคุยกับผู้ป่วยประมาณ 20 - 40 นาที
สำหรับการดำเนินการรับสายที่โทรเข้ามา จนถึงวันที่ 21 เมษายน 2564 รวม 3,477 สาย โทรเยี่ยมติดตาม 3,277 สาย ผู้ติดต่อขอเตียง 1,584 คน รับเข้ารักษาในโรงพยาบาลแล้ว
ทั้งนี้ กรณีที่โทร 1668 แล้วไม่มีผู้รับสายนั้น เกิดจากแต่ละวันมีผู้โทรเข้า 1668 มากกว่า 200 สาย จนทำให้คู่สายล้น ซึ่งทางกรมการแพทย์ได้จัดให้มีการส่งต่อข้อมูล ด้วยเทคนิค convert สายเข้าโทรศัพท์มือถือส่วนตัวของจิตอาสาจากทั่วประเทศ ทำให้สามารถรับสายเพิ่มได้อีกกว่า 10 คู่สาย
หากไม่สามารถติดต่อ 1668 ได้ ขอให้ติดต่อทางแอปพลิเคชันไลน์ โดยการเพิ่มเพื่อน Line @sabaideebot กรอกข้อมูลชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการประสานติดต่อเจ้าหน้าที่อีกทาง กรมการแพทย์ขอยืนยันว่ามีการปรับปรุงระบบการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรวดเร็วขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง