รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว (นิธิพัฒน์ เจียรกุล) โดยมีข้อความว่า
ล็อกดาวน์แค่ไหนจึงจะพอ ดูเหมือนต่างฝ่ายต่างให้นิยามไปแบบนานาจิตตัง คงด้วยมองผลกระทบที่กลุ่มตัวเองจะได้รับเป็นหลัก ถ้าเปรียบเทียบแล้วมากกว่ากลุ่มอื่น ก็เป็นอันไม่ยอมและตีรวนไปเรื่อย ท้ายสุดคนที่เป็นท้าวมาลีวราชท่านก็ปวดหัว แต่ถ้าทุกกลุ่มทุกฝ่ายหันมามองผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เริ่มจากเป้าหมายการหยุดยั้งการระบาดของโรคด้วยการลดจนเกือบงดการเคลื่อนย้ายของประชากร ช่วยกันมองหาวิธีการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ
โดยพิจารณาจากการสูญเสียที่เกิดขึ้นร่วมกับต้นทุนโอกาสในการฟื้นตัว กลุ่มที่มีทรัพย์สินเหลือกินเหลือใช้ต้องยอมไม่รับการชดเชย แถมยังควรสมัครใจแบ่งปันเพื่อจุนเจือกลุ่มคนที่แม้ได้รับการชดเชยแต่ก็ยังลืมตาอ้าปากไม่ขึ้น เมื่อผ่านพ้นวิกฤตไปได้ทุกคนจะต้องรอดไปด้วยกันเพื่อพลิกฟื้น และเมื่อทุเลาแล้วอย่าลืมถมช่องว่างเก่าให้แคบลงด้วย เพื่อการเผชิญวิกฤตครั้งต่อไปเราจะได้เข้มแข็งขึ้น
หักมุมไปเชิงวิชาการกันดีกว่า พรุ่งนี้ครบวงรอบสำหรับว่าที่อายุรแพทย์รุ่นใหม่สองหญิงสองชายจะมาทบทวนวรรณกรรมเชิงวิชาการ ให้แพทย์รุ่นพี่และอาจารย์ช่วยกันให้ความเห็นและชี้แนะ ที่จริงเป็นการกินแรงยืมมือเด็กป้อนความรู้ใหม่ๆ มาให้ แต่ใส่ไข่ใส่สีว่าเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกฝนเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะได้ไม่มีข้อครหาเรื่องการใช้แรงงานผู้เยาว์
ครั้งนี้เราจะทบทวนองค์ความรู้เรื่องการใช้เครื่องช่วยหายใจแบบไม่รุกล้ำหรือแบบไม่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ (noninvasive or nonintubated ventilation) ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะในยุคที่มีการระบาดของโควิดจนมีผู้ป่วยเกิดภาวะการหายใจล้มเหลวจำนวนมาก
ช่วงนี้กิจการดูแลผู้ป่วยโควิดวิกฤตของทีมเราเจริญแบบรัวๆ สามารถเอาเครื่องช่วยหายใจออกได้ถึงห้ารายในสามวัน ได้ผลดีรวมสี่ราย มีหนึ่งรายที่สมองยังฟื้นตัวไม่ดีทำให้การใช้ noninvasive ventilation ไม่สำเร็จ ต้องกลับไปใส่ท่อช่วยหายใจใหม่ ตัวคุณยายเองเกิดปอดอักเสบโควิดตั้งแต่เดือนก่อน ตอนนี้ตรวจไม่พบเชื้อจากเสมหะในปอดแล้ว
แต่เนื้อปอดถูกทำลายจนเกิดเป็นพังผืดจำนวนมากมาก นำไปสู่การแลกเปลี่ยนก๊าซที่ผิดปกติจนไม่สามารถหายใจได้เองพอ และไม่สามารถควบคุมการหายใจให้เหมาะสมด้วยตัวเองได้ ลักษณะคล้ายกับกรณีผู้ว่าสมุทรสาคร คงเป็นหนังชีวิตที่ต้องจับตาดูกันยาวๆ ต่อไป
ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" รวบรวมตัวเลขสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19)วันที่ 9 กรกฎาคม 2564 จากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. พบว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นรวม 9,276 ราย มาจาก ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,998 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 278 ราย ผู้ป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 288,643 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 72 ราย หายป่วยเพิ่ม 3,928 ราย หายป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 212,651 ราย