รายงานข่าวระบุว่า น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
13 กรกฎาคม 2564 ติดเชื้อเพิ่ม 8,685 ราย สะสมระลอกที่สาม 324,849 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 56 ราย สะสมระลอกที่สาม 2,753 ราย
วันนี้เป็นวันที่สอง ที่มาตรการเข้มข้นกึ่งล็อกดาวน์ได้มีผลบังคับใช้ เมื่อทบทวนมาตรการเข้มข้นก่อนหน้านี้ ที่ประกาศให้มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564 และใช้ระยะฟักตัว 14 วัน เป็นระยะเวลาในการประเมินผล จึงขอนำตัวเลขเปรียบเทียบ ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน 2564 และวันที่ 11 กรกฎาคม 2564 เพื่อดูผลของการประกาศใช้มาตรการเข้มข้นฉบับก่อนหน้านี้
จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มรายวัน
28 มิถุนายน 5,406 ราย
11 กรกฎาคม 9,539 ราย
ผู้รักษาตัวในโรงพยาบาล
28 มิถุนายน 45,648 ราย
11 กรกฎาคม 85,689 ราย
รักษาตัวในโรงพยาบาลหลัก
28 มิถุนายน 19,386 ราย
11 กรกฎาคม 47,475 ราย
รักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม
28 มิถุนายน 26,262 ราย
11 กรกฎาคม 38,214 ราย
ผู้ป่วยอาการหนัก
28 มิถุนายน 1,806 ราย
11 กรกฎาคม 2,783 ราย
ผู้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
28 มิถุนายน 510 ราย
11 กรกฎาคม 728 ราย
จึงเห็นได้ชัดเจนว่า มาตรการเข้มข้นที่ออกเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ไม่เพียงพอที่จะควบคุมการระบาดของโควิดระลอกที่สามได้ การตัดสินใจออกมาตรการเข้มข้นเพิ่ม ที่เรียกว่ากึ่งล็อกดาวน์ โดยไม่ต้องรอให้ครบ 14 วันก่อน จึงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง และควรนำมาใช้ในการประเมินมาตรการที่เพิ่งประกาศให้มีผลในวันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อให้มีการปรับมาตรการที่รวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์
หมอเฉลิมชัย ระบุต่อไปว่า วันนี้ 13 กรกฎาคม 2564
ติดเชื้อเพิ่ม 8,685 ราย
สะสมระลอกที่สาม 324,849 ราย
สะสมทั้งหมด 353,712 ราย
หายป่วยกลับบ้านได้ 3,797 ราย
สะสมทั้งหมด 228,029 ราย
เสียชีวิตเพิ่ม 56 ราย
สะสมระลอกที่สาม 2,753 ราย
สะสมทั้งหมด 2,847 ราย
สำหรับการประกาศ ล็อกดาวน์นั้น จากการตรวจสอบ "ฐานศรษฐกิจ" พบว่าที่ประชุม ศบค. เห็นชอบล็อกดาวน์ 14 วัน และตั้งเป้าลดจำนวนผู้ป่วยให้ได้ภายใน 2-4 สัปดาห์ ในพื้นที่เสี่ยง 10 จังหวัด โดยจะมีสกัดกั้นการเดินทางตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. (ตั้งด่านเริ่มเที่ยงคืนวันที่ 9 ก.ค.) เป็นต้นไป
ยกระดับมาตรการ “ล็อกดาวน์” หยุดเชื้อเพื่อชาติ
1. ศบค.เห็นชอบ ล็อกดาวน์ 10 จังหวัด รวม 14 วัน เริ่ม 12 ก.ค.ตั้งเป้าลดผู้ป่วยใน 2-4 สัปดาห์
2. จำกัดการเดินทางให้ทุกคนหยุดเชื้อเพื่อชาติ ไม่ออกจากเคหสถานโดยไม่จำเป็น ยกเว้นไปซื้ออาหาร พบแพทย์ ฉีดวัคซีน
3. ไม่ควรเดินทางข้ามจังหวัด เริ่มสกัดเดินทาง 10 ก.ค. (ตั้งด่านตั้งแต่เที่ยงคืน 9 ก.ค.เป็นต้นไป)
4.ร้านสะดวกซื้อ ตลาดโต้รุ่ง ปิด 20.00-04.00 น.
5.ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดเฉพาะซุปเปอร์มาเก็ต ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ธนาคาร สถาบันการเงิน เปิดถึง20.00น.
6.ร้านอาหาร ห้ามบริโภคอาหารหรือสุราหรือเครื่องดื่มในร้านเปิดได้ถึง 20.00น.
7.หนุน บริษัท ห้างร้าน ทำงานที่บ้าน Work From Home 100%
8.รถสาธารณะให้บริการ ถึง 21.30 น.
9.ปิดสถานที่ เสียงติดโรค นวดเพื่อสุขภาพ สปา สถานเสริมความงาม
10.สวนสาธารณะเปิดได้ถึง 20.00 น.
11.สถานศึกษาเรียนออนไลน์ 100%
12.ห้ามรวมกลุ่มเกิน 5 คน ยกเว้น กิจกรรมทางศาสนา เช่น งานศพจัดได้
และ13.ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 10 จังหวัด ไม่ออกนอกเคหสถานตามเวลากำหนด ช่วงเวลา 21.00-04.00 น. เว้นแต่มีความจำเป็น และ คนฉีดวัคซีนแล้วเดินทางได้