ติดเชื้อโควิดวิกฤตแรง "หมอเฉลิมชัย"แนะยกระดับมาตรการให้ทันไวรัสเดลตา

21 ก.ค. 2564 | 02:31 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ก.ค. 2564 | 09:30 น.

หมอเฉลิมชัยติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยอยู่ในระดับรุนแรงมาก แนะยกระดับมาตรการเข้มข้นให้ทันเหตุการณ์ที่ไวรัสเดลตาแพร่กระจายเร็วและกว้างขวาง ระบุต้องให้นำหนักด้านสาธารณสุขมากกว่าด้านเศรษฐกิจ

รายงานข่าวระบุว่า น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า 
21 กรกฎาคม 2564 ติดเชื้อรายวันเพิ่มสูงสุดอีกครั้งจำนวน 13,002 ราย ยอดติดเชื้อสะสมระลอกที่สามทะลุ 4 แสนราย เสียชีวิต 108 ราย 
โควิดระบาดระลอกที่สามของประเทศไทย ยังคงมีการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สถานการณ์โควิดของประเทศไทยอยู่ในระดับที่รุนแรงมาก เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศทั่วโลก เนื่องจากการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตา ที่แพร่ระบาดไปแล้วมากกว่า 117 ประเทศ
แม้ประเทศไทยจะได้มีการออกมาตรการกึ่งล็อกดาวน์ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม 2564 และมาตรการล็อกดาวน์เข้มงวด ซึ่งมีผลตั้งแต่วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม 2564 แล้วก็ตาม
โดยวันนี้ (21 ก.ค. 2564) ผู้ติดเชื้อใหม่รายวันทำสถิติสูงสุดคือ 13,002 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเฉพาะในระลอกที่สามทะลุ 4 แสนราย คือ 410,614 ราย
ระบบสาธารณสุข โดยเฉพาะโรงพยาบาลหลักได้แบกรับจำนวนผู้ป่วยสูงมากถึง 81,570 เตียง จากจำนวนผู้ที่ต้องได้รับการรักษา 131,411 เตียง โดยอยู่ในโรงพยาบาลสนามอีก 49,841 ราย
ด้วยแนวโน้มการติดเชื้อที่ปรากฏดังกล่าว ทุกฝ่ายจึงต้องร่วมมือกัน ในการควบคุมการระบาดครั้งนี้ โดย
1.ประชาชน : ต้องมีความเข้าใจและตั้งใจที่จะร่วมมือกันอย่างเต็มที่ เช่น การงดเว้นการออกจากบ้าน การรวมกลุ่มกันที่เกินกว่า 5 คน ที่สำคัญคือ ภาคเอกชนโดยเจ้าของกิจการหรือผู้บริหาร ต้องดำเนินการให้ทำงานจากที่บ้านทั้งหมด 100% หรือขั้นสูงสุด(ยกเว้นกรณีที่สุดความสามารถหรือจำเป็นอย่างยิ่งเท่านั้น)

ภาครัฐ : จำเป็นที่จะต้องทำการประเมินสถานการณ์และตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ในการปรับเพิ่มระดับความเข้มข้นของมาตรการต่างๆให้รวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ ที่ไวรัสสายพันธุ์เดลต้าแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง โดยต้องให้น้ำหนักต่อมิติทางด้านสาธารณสุข (ซึ่งกำลังรุนแรงมาก) มากกว่าน้ำหนักของมิติทางด้านเศรษฐกิจ (ซึ่งสามารถจะมาฟื้นฟูภายหลังได้)

โควิด-19 ในประเทศไทยอยู่ในระดับรุนแรง
วันนี้ 21 กรกฎาคม 2564
ติดเชื้อเพิ่ม 13,002 ราย พบจาก
ตรวจในระบบ    9012 ราย 
ตรวจเชิงรุก        2910 ราย
ในเรือนจำ          1049 ราย
ในสถานกักตัว    31 ราย
สะสมระลอกที่สาม 410,614 ราย
สะสมทั้งหมด         439,477 ราย

รักษาในโรงพยาบาล 131,411 ราย
โรงพยาบาลหลัก        81,570 ราย
โรงพยาบาลสนาม     49,841 ราย
อาการหนัก               3786 ราย
ใช้เครื่องช่วยหายใจ 879 ราย
หายกลับบ้านได้ 8248 ราย
สะสม                 304,675 ราย
เสียชีวิต                 108 ราย
สะสมระลอกที่สาม 3516 ราย
สะสมทั้งหมด         3610 ราย
ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" รวบรวมตัวเลขการฉีดวัคซีนโควิด-19 (Covid-19)ในประเทศไทย วันที่ 28 ก.พ.-19 ก.ค. 64 จากศูนย์ข้อมูล COVID-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า มีการฉีดสะสมจำนวน 14,547,244  โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 11,067,518 ราย และเข็มที่ 2 จำนวน 3,479,726 ราย