รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า
วัคซีน Pfizer ฉีดแบบ 2 เข็มให้ครบนั้นถือเป็นมาตรฐานที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีสรรพคุณในด้านการป้องกัน และเป็นที่ยอมรับระดับสากล
กลุ่มประเทศยุโรปหลายประเทศประสบปัญหาการฉีดวัคซีน Astra แล้วมีเคสลิ่มเลือดอุดตันในสมองโดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนอายุน้อย จึงมีการหาวัคซีนมาแทน โดยหันมาใช้วัคซีน mRNA อย่าง Pfizer มาเป็นเข็มสอง เราจึงเห็นการใช้ Astra-Pfizer และมีการศึกษาตรวจระดับภูมิคุ้มกันและผลด้านการป้องกันตามมา
ดังนั้นจึงสมควรพิจารณาที่จะใช้วัคซีนที่ได้รับบริจาคมาโดยอิงตามหลักฐานเชิงประจักษ์ ที่มีทั้งเรื่องภูมิคุ้มกัน และประสิทธิผลในการป้องกัน
"ควรให้ Pfizer 2 เข็มเป็นมาตรฐานให้ครบโดส ไม่ใช่แค่บูสต์เข็มสาม"
สำหรับคนที่อายุน้อยกว่า 60 ปีที่ได้ Astra ไปเข็มแรก ควรให้ Pfizer เป็นเข็มสอง
ส่วนคนอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ใช้ Astra 2 เข็ม ยกเว้นกรณีแพ้ ก็ให้ Pfizer
คนที่เคยฉีดวัคซีนอื่นมา หรือยังไม่เคยได้รับวัคซีน หากเป็นด่านหน้า ก็ควรใช้เกณฑ์เดียวกันกับที่ระบุข้างต้น
วัคซีนในยามวิกฤตินั้นต้องใช้ความรู้เชิงประจักษ์ หลีกเลี่ยงความเสี่ยง ลดความผิดพลาด
ไม่ใช่เวลามาผสมสูตรเครื่องดื่ม ชงเอง แต่ให้ทุกคนชิม แล้วรับความเสี่ยงไปว่าจะได้ผลอย่างไรในยามวิกฤติ
ที่สำคัญคือควรมีการตรวจสอบเรื่อง conflict of interest ของกลุ่มคนที่ไปให้ input เชิงวิชาการ และอยู่ในกระบวนการตัดสินใจเชิงนโยบาย เกี่ยวข้องกับการจัดสรร และกำหนดเกณฑ์ต่างๆ ในการใช้
ไม่สมควรนำวัคซีนที่บริจาคมาไปใช้วิจัย เพราะนี่คือยามวิกฤติ ที่ต้องการนำอาวุธไปใช้ทันที
ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" รวบรวมตัวเลขการฉีดวัวซีนโควิด-19 (Covid-19) ในประเทศไทย วันที่ 28 ก.พ.-30 ก.ค. 64 จากศูนย์ข้อมูลโควิด-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ฉีดสะสมแล้วจำนวน 17,491,632 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 13,640,179 ราย และฉีดครบ 2 เข็มจำนวน 3,851,453 ราย