รายงานข่าวระบุว่า นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ (หมอมนูญ) ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว (หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC) โดยมีข้อความระบุว่า
100 วันข้างหน้าจะเป็น 100 วันอันตราย จำนวนคนติดเชื้อและเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาในประเทศไทย จะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
ต่อให้เรามีมาตรการล็อกดาวน์เข้มข้นแค่ไหน อยู่บ้าน ก็ไม่สามารถหยุดเชื้อได้ บ้านกลับเป็นแหล่งระบาดที่สำคัญที่สุด จึงควรผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์บางอย่างได้บ้าง ก่อนที่เศรษฐกิจจะเสียหายมากไปกว่านี้ ใน 100 วันข้างหน้าตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แท้จริงของประเทศไทยอาจเพิ่มขึ้นเป็น 35 ล้านคน หมายถึงคนไทยครึ่งประเทศจะติดเชื้อ และจะมีคนไทยเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 3 หมื่นคน
คนไทยฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มแรกแล้ว 16 ล้านคน ยังขาดอีก 40-45 ล้านคน วิธีเดียวที่จะลดจำนวนผู้ป่วยหนักเข้านอนในรพ.และลดจำนวนคนเสียชีวิต คือการฉีดวัคซีน และต้องเร่งฉีดให้เร็วที่สุดภายใน 100 วันข้างหน้า ไม่ใช่รอถึงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า โดยปูพรมฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าให้คนไทยอีก 40-45 ล้านคน ฉีดวันละ 5 แสนคน โดยให้เข็มแรกทุกคนไปก่อน เมื่อมีวัคซีนเพิ่ม ค่อยให้เข็ม 2 ในภายหลัง
ข้อมูลจากฝ่ายสื่อสารองค์กรบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ระบุว่าวัคซีนแอสตร้า 1 โดส มีประสิทธิภาพสูงในการลดการป่วยหนักถึงขั้นเข้ารพ.และเสียชีวิต โดยมีข้อมูลจากการใช้วัคซีนในประเทศแคนาดา พบว่าวัคซีน 1 โดส ป้องกันการเสียชีวิตที่เกิดจากการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาได้ 87% และสายพันธุ์อัลฟา 90%
ปัญหาสำคัญเรากำลังประสบขณะนี้ คือการขาดแคลนวัคซีนอย่างหนัก ผมเคยเขียนลงใน FB เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ปีนี้ เสนอให้รัฐบาลไทยเจรจาต่อรองกับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าให้ส่งมอบวัคซีนที่สั่งจองล่วงหน้าให้ประเทศไทยเร็วขึ้น แต่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะประเทศไทยสั่งจองวัคซีนล่วงหน้าน้อยและช้ากว่าประเทศอื่น ผมเห็นด้วยกับ ศ.ดร.นพ.ประเสริฐ เอื้อวรากุล คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตาม พรบ.ความมั่นคงด้านวัคซีนฯงดการส่งออกวัคซีนที่ผลิตที่ Siam Bioscience ให้ประเทศอื่นเป็นการชั่วคราว
ขณะนี้บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์มีกำลังการผลิตวัคซีนประมาณเดือนละ 10-15 ล้านโดส หากใช้อำนาจตาม พรบ.งดการส่งออก ทำให้ประเทศไทยมีวัคซีน 30-45 ล้านโดสในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ถ้าทำเช่นนั้นได้ เรามีโอกาสที่จะลดความสูญเสีย ลดจำนวนผู้ป่วยเข้านอนในโรงพยาบาลและลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้มากกว่าร้อยละ 80 แต่การฉีดวัคซีนไม่ได้ลดจำนวนผู้ติดเชื้อ การดำเนินการเช่นนี้จะมีผลกระทบต่อประเทศอื่นในภูมิภาคในการที่จะได้รับวัคซีนจากบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าลดลงชั่วคราว แต่เราจำเป็นต้องทำ ผมเชื่อว่าประเทศอื่นคงทำแบบเดียวกับเรา ถ้าเจอสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่ย่ำแย่จากสายพันธุ์เดลตาเหมือนเราในขณะนี้
ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" รวบรวมสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19) วันที่ 12 สิงหาคม 64 จากศูนย์ข้อมูลโควิด-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า
ติดเชื้อเพิ่ม 22,782 ราย
ติดเชื้อในระบบ 19,973 ราย
ติดจากตรวจเชิงรุก 2426 ราย
ติดในสถานกักตัว 8 ราย
ติดในเรือนจำ 375 ราย
สะสมละลอกที่สาม 810,908 ราย
สะสมทั้งหมด 839,771 ราย
ผู้เข้าข่ายติดเชื้อ/ATK 3673 ราย
สะสม 27,673 ราย
รักษาตัวอยู่ 209,028 ราย
โรงพยาบาลหลัก 60,127 ราย
โรงพยาบาลสนาม 73,140 ราย
แยกกักที่บ้าน/ชุมชน 68,335 ราย
อาการหนัก 5495 ราย
ใช้เครื่องช่วยหายใจ 1103 ราย
เสียชีวิต 147 ราย
สะสมระลอกที่สาม 6848 ราย
สะสมทั้งหมด 6942 ราย
รักษาหายกลับบ้านได้ 23,649 ราย
สะสมระลอกที่สาม 596,375 ราย
สะสมทั้งหมด 624,020 ราย
ตรวจหาเชื้อด้วยวิธีมาตรฐาน (เฉลี่ย 7 วันย้อนหลัง) 52,404 ตัวอย่าง/วัน