นายปิยวัชร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD เจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสเนลไวท์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับแผนการตลาดให้สอดคล้องเหมาะสมกับ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งการออกสินค้าใหม่ที่น่าสนใจเหมาะกับพฤติกรรมผู้บริโภค , การปรับช่องทางการจัดจำหน่ายโดยเน้นช่องทางออนไลน์และTelesales ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการทำตลาดในต่างประเทศ
โดยเฉพาะในประเทศฟิลิปปินส์ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี สะท้อนให้เห็นจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก ที่มีรายได้รวมทั้งหมด 802.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 240.27 ล้านบาท หรือ 42.73% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของก่อน โดยบริษัท มีรายได้หลักจากการขายรวม 588.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 165.23 ล้านบาท หรือ 39.05% ซึ่งคิดเป็น 73.31% ของรายได้รวม และสัดส่วนรายได้ที่เหลืออีก 26.69% มาจากรายได้อื่นๆ 214.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75.04 ล้านบาท หรือ 53.92% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ รายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น มาจากรายได้ส่วนงานธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 251.77 ล้านบาท ที่เพิ่มขึ้น 27.35 ล้านบาท หรือ 12.19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยบวกจากยอดขายในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทฯ ได้ขยายช่องทางการจำหน่ายในต่างประเทศทั้งจำนวนร้านค้าและช่องทางออนไลน์ให้มีความหลายมากยิ่งขึ้น ประกอบกับมีการทำแผนการตลาดของแบรนด์สินค้า Oxe’cure ในประเทศฟิลิปปินส์ ที่ตรงใจกลุ่มผู้บริโภค
สำหรับรายได้จากธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมความงาม มียอดขายอยู่ที่ 336.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 137.89 ล้านบาท หรือ 69.40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดขายจากการขายในประเทศเป็นหลัก
ซึ่งยังคงเป็นผลต่อเนื่องจากการเข้าซื้อกิจการของกลุ่มบริษัท คิวรอน จำกัด ในช่วงปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 119.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77.07 ล้านบาท หรือ 180.76% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นนั้น มาจากรายได้จากการขายที่เติบโตขึ้น การบริหารการลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินที่ดี และการลดค่าใช้จ่ายทางการขายและการบริหาร (SG&A) จาก 77 % ของรายได้ในครึ่งปีแรกของปี 2563 เหลือ 65 % ในครึ่งปีแรกนี้
ประกอบกับบริษัท มีการควบคุมค่าใช้จ่ายและมีการบริหารต้นทุนในการจัดจำหน่ายที่ดีขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้
นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งเน้นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ในการขยายตลาดต่างประเทศ และการบูรณาการการทำงานร่วมกันในแต่ละหน่วยธุรกิจเพื่อให้เกิด syngery
ยกตัวอย่างเช่น การเริ่มนำสินค้าแบรนด์ Sparkle ไปทำการตลาดในประเทศฟิลิปปินส์ การจัดทำระบบคลังสินค้ากลาง (Centralized Warehouse) และการรวมทีมงานออนไลน์ เป็นต้น โดยคาดหวังว่าจะช่วยสร้างรายได้ใหม่และลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลงจากปีก่อน