รายงานข่าวระบุว่า น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
อิสราเอลเป็นประเทศแรกในโลก ที่ฉีดวัคซีน Pfizer กระตุ้นเข็ม 3 พบมีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อสูงกว่าฉีด 2 เข็ม มากถึง 2-6 เท่า
อิสราเอลเป็นประเทศแรกในโลก ที่เร่งฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่ จนได้สัดส่วนภูมิคุ้มกันหมู่ (ในประชากรที่สามารถฉีดวัคซีนได้) ตั้งแต่ 25 มีนาคม 2564
จนมีการประกาศผ่อนคลายขนานใหญ่ ให้สามารถเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ออกมารวมตัวกันโดยไม่ต้องใส่หน้ากาก ในเดือนมิถุนายน 2564
หลังจากนั้น ก็มีการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นนับเท่าตัว จนต้องกลับมาออกมาตรการควบคุมวินัยของโรคระบาดกันใหม่
เหตุผลสำคัญ ที่ทำให้อิสราเอลฉีดวัคซีน Pfizer สองเข็มแล้ว แต่ยังคุมการระบาดของโควิดไม่อยู่ในปัจจุบัน ประกอบด้วย
1.ภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนสองเข็ม ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเวลาผ่านไป 6 เดือน
2.เกิดมีไวรัสสายพันธุ์เดลต้า ที่แพร่ระบาดรวดเร็ว ได้แพร่ระบาดเป็นสายพันธุ์หลักในอิสราเอลขณะนี้
3.สัดส่วนการฉีดวัคซีนต่อประชากรทั้งประเทศ ยังไม่ถึงภูมิคุ้มกันหมู่จริง คือฉีดได้เพียง 58% ของประชากรทั้งหมด แต่ถ้านับประชากรที่ฉีดวัคซีนได้คืออายุ 12 ปีขึ้นไป จะฉีดไปแล้ว 78% อย่างไรก็ตาม มีเด็กและเยาวชนอายุ 12-20 ปี อีก 1 ล้านคน ที่ยังไม่ยอมฉีดวัคซีน
4.การเร่งฉีดวัคซีนจนครบสองเข็มโดยลำพัง ไม่ได้เป็นมาตรการที่เพียงพอ ถ้าไม่มีการควบคุมการเคลื่อนที่ของประชากร คือ ยังปล่อยให้ทำมาหากิน ท่องเที่ยวได้ตามปกติ
5.การฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 มีความจำเป็นในการควบคุมโรคไวรัสกลายพันธุ์
รัฐบาลอิสราเอลจึงประกาศเป็นประเทศแรกในโลกอีกครั้งหนึ่ง ให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป รับการฉีดวัคซีนเข็มสาม
ซึ่งในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ ได้ฉีดไปแล้ว 1 ล้านคน จากประชากร 1.9 ล้านคน (ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี และส่วนใหญ่ฉีดวัคซีน Pfizer สองเข็มไปแล้ว แต่ฉีดไปนานถึงห้าเดือน)
ผลของการเก็บตัวเลขเบื้องต้น ผู้ที่ฉีดวัคซีน Pfizer แล้วสามเข็ม จำนวน 149,144 ราย พบว่า มีการติดเชื้อ 37 ราย คิดเป็น 0.0248%
ในขณะที่ กลุ่มฉีดวัคซีนสองเข็มจำนวน 675,630 ราย พบผู้ติดเชื้อมากถึง 1064 ราย คิดเป็น 0.157% แตกต่างกันมากถึง 6 เท่า
และถ้าดูประสิทธิผลของการฉีดวัคซีน Pfizer กระตุ้นเข็มสาม ในอิสราเอล พบว่า สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 86% ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงได้ 92% โดยผู้ที่ฉีดวัคซีนสองเข็มป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงได้เพียง 55 %
ข้อมูลของอิสราเอลดังกล่าวทั้งหมด ทำให้หลายประเทศ กำลังพิจารณาว่าจะต้องฉีดเข็มสามด้วย เช่น ประเทศอังกฤษ และสหรัฐอเมริกา
โดยสหรัฐอเมริกา มีแผนที่จะฉีดกระตุ้นเข็มสามให้กับประชากรทั่วไปปลายเดือนหน้านี้ ในขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลกได้ออกมาวิงวอนประเทศร่ำรวยทั้งหลาย ให้ชะลอการฉีดวัคซีนเข็มสามไว้ก่อน เพราะโลกกำลังขาดแคลนวัคซีนป้องกันโควิดอย่างมาก เพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศยากจน ได้มีโอกาสฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 อย่างน้อยเพื่อลดการติดเชื้อและการเสียชีวิตในประเทศเหล่านั้นลง ไม่เช่นนั้นแล้ว ในประเทศที่มีการฉีดวัคซีนน้อย และมีการติดเชื้อสูง ก็จะทำให้มีโอกาสเกิดไวรัสสายพันธุ์ที่รุนแรง
แล้วในที่สุดไวรัสเหล่านั้น ก็จะแพร่ระบาดไปทั่วโลก และย้อนกลับมาสู่ประเทศที่ได้ฉีดวัคซีนเข็ม 3 ที่ไม่สามารถจะป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ก่อโรครุนแรงได้
สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 (Covid-19) ในประเทศไทยนั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลการรายงานจากศูนย์ข้อมูลโควิด-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-21 ส.ค. 64 พบว่า มีการฉีดสะสมแล้วจำนวน 26,832,179 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 20,272,171 ราย ฉีดครบ 2 เข็มแล้วจำนวน 6,017,820 ราย และฉีดเข็มที่ 3 จำนวน 542,188 ราย