หลังปลดล็อกการเดินทาง 1 ก.ย. หลายจังหวัดมีข้อจำกัดอะไรบ้าง เช็คที่นี่

29 ส.ค. 2564 | 00:59 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ส.ค. 2564 | 08:30 น.

ภายหลัง ศบค.ชุดใหญ่เห็นชอบการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโควิด-19 ให้ปชช.สามารถเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ รวมถึงการโดยสารเครื่องบินในการเดินทางข้ามจังหวัด มีเงื่อนไขบางประการที่ผู้โดยสารจะต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของจังหวัดจุดหมายปลายทางอย่างเคร่งครัด

นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยวานนี้ (28 ส.ค.) ว่า ภายหลัง ศบค.ชุดใหญ่เห็นชอบการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ให้สามารถเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ รวมถึง การโดยสารเครื่องบินในการเดินทางข้ามจังหวัด ได้ ขณะนี้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย อยู่ระหว่างรอข้อกำหนด ศบค.ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา และกำลังหารือกับ ศบค.ชุดเล็กเพื่อกำหนดรายละเอียดปลีกย่อย เช่น ผู้โดยสารที่จะได้รับอนุญาตให้เดินทางโดยเครื่องบินจะต้องมีผลตรวจ ATK, ผลตรวจ RT-PCR หาเชื้อโควิด-19 และใบยืนยันการรับวัคซีนต้านโควิด-19

 

นอกจากนี้ยังต้องพิจารณากรณีผู้ป่วยโควิด-19 ที่หายจากการป่วยแล้วระยะ 1-3 เดือน จะได้รับอนุญาตให้เดินทางได้หรือไม่ จะเร่งดำเนินการออกประกาศ และประกาศจะมีผลในวันที่ 1 กันยายน 2564 ส่วนสายการบินและท่าอากาศยานขณะนี้ทราบว่ามีความพร้อมในการเปิดให้บริการ และจะปฏิบัติตามข้อกำหนดของ กพท.ที่ประกาศออกมาแล้ว

หลังปลดล็อกการเดินทาง 1 ก.ย. หลายจังหวัดมีข้อจำกัดอะไรบ้าง เช็คที่นี่

ทั้งนี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ออกประกาศ 1 ก.ย.64 เป็นต้นไป จะอนุญาตให้สายการบินทำการบินรับส่งผู้โดยสารเข้าหรือออกพื้นที่ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดได้ หลังจากเมื่อวันที่ 27 ส.ค.64 ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ชุดใหญ่ มีมติเห็นชอบให้คลายล็อกพื้นที่ควบคุมสูงสุด 29 จังหวัด โดยให้สามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ แต่ทั้งนี้ ผู้โดยสารจะต้องปฏิบัติตามมาตรการการควบคุมโรคของจังหวัดจุดหมายปลายทางที่ต้องการเดินทางไปอย่างเคร่งครัด ดังนี้

 

1. พิษณุโลก และชุมพร ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันติดตามตัว และต้องทำการกักตัวที่ปลายทางเป็นเวลา 14 วัน ทุกกรณี

2. ภูเก็ต และกระบี่ ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันติดตามตัว และต้องแสดงใบรับรองการปลอดเชื้อโควิด-19 ในรูปแบบของ RT-PCR หรือ ATK ที่ตรวจคัดกรองโดยแพทย์เท่านั้น และใบรับรองการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือเคยติดเชื้อไม่เกิน 90 วัน

3. หัวหิน และตรัง ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันติดตามตัว และแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือเคยติดเชื้อไม่เกิน 90 วัน

4. แพร่ น่าน สกลนคร อุดรธานี เชียง ใหม่ และบุรีรัมย์ โหลดแอปพลิเคชันติดตามตัว แสดงใบรับรองฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และอาจจะมีการถูกตรวจการติดเชื้อที่ปลายทาง

5. ขอนแก่น อุบลราชธานี และลำปาง โหลดแอปพลิเคชันติดตามตัว แสดงใบรับรองฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และแสดงใบรับรองการปลอดเชื้อโควิด-19 จากการตรวจแบบ RTPCR

6. เชียงราย หาดใหญ่ นครพนม และนครศรีธรรมราช โหลดแอปพลิเคชันติดตามตัว แสดงใบรับรองฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และแสดงใบรับรองการปลอดเชื้อโควิด-19 ในรูปแบบของ RT-PCR หรือ ATK ที่ตรวจคัดกรองโดยแพทย์เท่านั้น

7. ระนอง โหลดแอปพลิเคชันติดตามตัว แสดงใบรับรองฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และแสดงใบรับรองการปลอดเชื้อโควิด-19 ในรูปแบบของ RT-PCR หรือ ATK ที่ตรวจคัดกรองโดยแพทย์เท่านั้น

8. สุราษฎร์ธานี โหลดแอปพลิเคชันติด ตามตัว

9. กรุงเทพฯ (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ) เลย นราธิวาส และสนามอู่ตะเภา ไม่มีมาตรการคัดกรอง

 

นอกจากนี้ ในส่วนของการสัญจรทางอากาศ  ศบค.ยังผ่อนปรนให้สายการบินมีการปรับเพิ่มอัตราการบรรทุกผู้โดยสารต่อเที่ยวบินจาก 50% เป็น 70% เพื่อลดภาระต้นทุนตั๋วโดยสารมีราคาแพง ส่วนบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องยังคงงดให้บริการ

 

ด้านเพจเฟซบุ๊ก Chiang Mai International Airport-CNX โพสต์ประกาศ สายการบินต่างๆ พร้อมกลับมาให้บริการเส้นทางภายในประเทศ 1 ก.ย. สำหรับการปฏิบัติตัวของผู้โดยสาร เบื้องต้นให้เป็นไปตามที่ กพท.กำหนด

 

ส่วนบริการด้านบขส. นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า 1 ก.ย.นี้ เป็นต้นไป บขส. พร้อมเปิดเดินรถให้บริการเส้นทางภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ 75% ตามมติของ ศบค. เบื้องต้นอาจจะยังเปิดไม่ครบทุกเส้นทาง ซึ่งฝ่ายการเดินรถจะพิจารณาจากข้อมูลความต้องการเดินทางและความจำเป็น รวมถึงจะขอความร่วมมือตรวจสอบว่าผู้โดยสารฉีดวัคซีนครบตามจำนวนแล้วหรือไม่ ส่วนผู้โดยสารที่ยังไม่ฉีดสามารถเดินทางได้เช่นกัน แต่ขอให้มีการป้องกันตนเอง อ่านเพิ่มเติม: บขส.กลับมาเดินรถ 1 กันยายน นี้ รับผู้โดยสาร 75%