แนะยกเลิกภูเก็ตแซนด์บล็อก หมอธีระห่วงติดโควิดมากขึ้นเกิดผลลัพธ์ถาวร

29 ส.ค. 2564 | 01:44 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ส.ค. 2564 | 09:28 น.

หมอธีระแนะยกเลิกภูเก็ตแซนด์บล็อก หลังผู้ติดเชื้อเพิ่มากขึ้นห่วงเกิดผลลัพธ์ถาวร ระบุรายงานผู้เชื้อรายวันควรรวมการตรวจจาก ATK ด้วย

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า
สถานการณ์ทั่วโลก 29 สิงหาคม 2564 อิหร่านแซงสเปนขึ้นมาเป็นอันดับ 10 ของโลกแล้ว
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 532,910 คน รวมแล้วตอนนี้ 216,701,665 คน ตายเพิ่มอีก 8,517 คน ยอดตายรวม 4,506,324 คน
5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุด ยังคงเป็นเช่นเดิมคือ อเมริกา อินเดีย สหราชอาณาจักร อิหร่าน และบราซิล 
อเมริกา ติดเชื้อเพิ่ม 68,354 คน รวม 39,612,986 คน ตายเพิ่ม 600 คน ยอดเสียชีวิตรวม 654,005 คน อัตราตาย 1.7% 
อินเดีย ติดเพิ่ม 45,058 คน รวม 32,694,188 คน ตายเพิ่ม 457 คน ยอดเสียชีวิตรวม 437,860 คน อัตราตาย 1.3% 
บราซิล ติดเพิ่ม 24,699 คน รวม 20,728,605 คน ตายเพิ่ม 656 คน ยอดเสียชีวิตรวม 579,052 คน อัตราตาย 2.8%
รัสเซีย ติดเพิ่ม 19,492 คน รวม 6,863,541 คน ตายเพิ่ม 799 คน ยอดเสียชีวิตรวม 180,840 คน อัตราตาย 2.6% 
ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 17,590 คน ยอดรวม 6,728,858 คน ตายเพิ่ม 74 คน ยอดเสียชีวิตรวม 114,157 คน อัตราตาย 1.7%
อันดับ 6-10 เป็น สหราชอาณาจักร ตุรกี อาร์เจนติน่า โคลอมเบีย และอิหร่าน ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่น 
แถบอเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกา เอเชีย หลายต่อหลายประเทศติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น 
หากรวมทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ พบว่ามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 88.53 ของจำนวนติดเชื้อใหม่ทั้งหมดต่อวัน

แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลักร้อยถึงหลักพัน 
แถบตะวันออกกลางส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ยกเว้นอิหร่านติดเพิ่มหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง 
เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และญี่ปุ่น ติดเพิ่มกันหลักหมื่น
ส่วนเมียนมาร์ ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ติดกันหลักพัน กัมพูชา ลาว และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกง และไต้หวัน ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์
สถานการณ์ของไทยเรา
1. "การระบาด"
ตอนนี้ยอดติดเชื้อสะสมสูงเป็นอันดับที่ 30 ของโลก พรุ่งนี้ก็จะแซงเบลเยี่ยมได้
จำนวนติดเชื้อใหม่เมื่อวานนี้สูงเป็นอันดับ 11 แต่หากรวม ATK ด้วย จะเป็นอันดับ 8 
2. "ATK"
เน้นย้ำอีกครั้งว่า การใช้ ATK ในช่วงที่สถานการณ์ระบาดหนักนั้น ถ้าใช้ชุดตรวจที่มีคุณภาพ โอกาสที่ตรวจได้ผลบวกและจะติดเชื้อจริงมีสูง (Post-test probability)
การรายงานควรแยกจำนวนที่ตรวจด้วย RT-PCR และจำนวนที่ตรวจด้วย ATK ตามลำดับ และรายงานจำนวนเคสแต่ละวันควรรายงานจำนวนรวม ATK ด้วยเพื่อให้ประชาชนได้ทราบสถานการณ์จริง เพราะสุดท้ายแล้วคนที่ตรวจด้วย ATK ก็ได้รับการดูแลรักษา และหลายคนก็มีปัญหาไม่สามารถเข้าถึงการตรวจ RT-PCR ได้
การตรวจ ATK นั้น ต้องทราบว่าโอกาสเกิด"ผลบวกปลอมจะน้อย" เพราะมีความจำเพาะสูง 
แต่สิ่งที่ควรระวังคือเรื่อง"ผลลบปลอม" เพราะมีความไวไม่มากนัก แปลว่า ตรวจแล้วได้ผลลบทั้งๆ ที่ติดเชื้ออยู่ ดังนั้นจึงต้องป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด และอาจตรวจซ้ำใน 3-5 วันถัดมา หรือหากเสี่ยงมาก หรือมีอาการชัดเจน ก็ควรไปตรวจ RT-PCR ไปเลย

3. "กล่องทราย"
เมื่อวานมีเพิ่มอีก 210 คน เป็นไปตามที่บอกไว้ว่าจะเริ่มเห็นผลลัพธ์กล่องทรายได้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเป็นต้นไป โดยต้องเน้นว่านี่เป็นผลลัพธ์เบื้องต้นเท่านั้น 
ทั้งนี้สิ่งที่เป็นห่วง ไม่อยากให้เกิดขึ้นคือ ผลลัพธ์ถาวร ที่จะเปลี่ยนภูมิทัศน์การระบาดไปอย่างสิ้นเชิง หากไม่ยุตินโยบายกล่องทรายและหันไปตัดวงจรการระบาดให้ได้ คาดว่ามีเวลาราว 2-4 สัปดาห์ที่จะเป็นเวลาทองสำหรับการจัดการ

การติดเชื้อโควิดจากภูเก็ตแซนด์บล็อก
ถ้าไม่สามารถตัดวงจรการระบาดได้ ก็แปลว่าพื้นที่นั้นก็จะมีปัญหานั้นไปในระยะยาว
กล่องทรายนั้น ปัจจัยเสี่ยงที่นำเข้ามาจากต่างประเทศไม่ใช่ปัจจัยหลักของการระบาด แต่ที่ทำให้เกิดปัญหาดังที่เห็นนั้นเกิดจากการเปิดให้มีกิจการ กิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้มีจำนวนคนมาพบปะสังสรรค์ เจอกัน สัมผัสกัน ใกล้ชิดกัน ในจำนวนมากขึ้น นานขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหลักของการติดเชื้อแพร่เชื้อนั่นเอง โดยมีการติดเชื้อในชุมชนแฝงอยู่แล้วตั้งแต่ต้น
ดังนั้นการจัดการจึงต้องหยุด และปูพรมตรวจ แยกกักตัวและนำสู่ระบบดูแลรักษา แต่การปูพรมด้วยวัคซีนอย่างเดียวไม่มีทางที่จะตัดวงจรการระบาดได้
สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19) ในประเทศไทยวันที่ 29 สิงหาคม 64 นั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามรายงานขอ้มูลจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. พบว่า ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรวม 16,536 ราย มาจาก ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16,208 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 328 ราย  ผู้ป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 1,145,228 ราย  เสียชีวิตเพิ่ม 264 ราย หายป่วย 20,927 ราย กำลังรักษา 177,702 ราย หายป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 957,820 ราย